เชื่อ TERA ไม่สร้างความผิดหวังให้นักลงทุน พื้นฐานแน่น โอกาสเติบโตเปิดกว้าง

1606 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เชื่อ TERA ไม่สร้างความผิดหวังให้นักลงทุน พื้นฐานแน่น โอกาสเติบโตเปิดกว้าง



นายสุรสิทธิ์ คิวประสพศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เทอร์ราไบท์ พลัส (TERA) เชื่อมั่นว่า การเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) วันพุธที่ 24 เมษายนนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากนักลงทุน ทั้งจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ทั้งความสามารถทำกำไรที่แข็งแกร่ง และการที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบประมวลฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ระบบการจัดเก็บข้อมูลที่มีคุณภาพ หรือการป้องกันภัยคุกคามทางด้านไซเบอร์ ผลักดันให้ความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ เติบโตตามการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี อีกทั้งการระดมทุน จะหนุนให้บริษัทฯ มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และโอกาสขยายธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ตามแผนและกรอบเวลาที่ทางบริษัทฯ ได้วางไว้ 

ขณะเดียวกัน การนำเงินระดมทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ไปใช้เพื่อยกระดับการให้บริการ T.Cloud ซึ่งกำลังพัฒนาไปยัง GEN 3 ต่อยอดการมีระบบและแอปพลิเคชั่นที่เป็นของตนเอง ยังเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันด้านราคา และการควบคุมคุณภาพในการให้บริการที่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายสัญญาการให้บริการที่ 1-3 ปี กับลูกค้าเก่าได้ในอัตรา 94% ช่วยสร้างรายได้ประจำให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มกระแสเงินสดให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น รองรับโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดด ภายใน 3 ปีข้างหน้า

ส่วนนายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ที่ปรึกษาทางการเงิน เสริมว่า ด้วยจุดเด่นที่เป็น IT Solution Provider รายสำคัญของประเทศ มีฐานลูกค้าครอบคลุมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนขนาดกลางและใหญ่ ในหลากหลายธุรกิจ ทั้ง Hardware และ Software ที่เป็นแบรนด์ระดับโลก รวมถึง Solution ที่ช่วยบริหารจัดการระบบ Cloud ระบบการวิเคราะห์ข้อมูล ระบบบริหารจัดการการขนส่งกระจายสินค้าและโลจิสติกส์ และระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ ทำให้ TERA มีโอกาสขยายธุรกิจได้อีกมากในอนาคต

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ดูได้จากผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปีล่าสุด (ปี 2564-66) ที่มีการเติบโตของรายได้และกำไรสร้างสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มจาก 18.71 ล้านบาท เป็น 25.79 ล้านบาท และ 28.96 ล้านบาท ตามลำดับ ตามรายได้รวมที่เร่งตัวจาก 395.88 ล้านบาท เป็น 559.98 ล้านบาท และ 604.09 ล้านบาท ตามลำดับ

ประการสำคัญ บทวิเคราะห์จาก 4 ค่าย ได้แก่ ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) บียอนด์ (BYD) กรุงศรี พัฒนสิน (KCS) ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (CGSI) ยังประเมินโอกาสเติบโตของ TERA ว่า จะเกิดจากทั้งปัจจัยภายใน (Organic Growth) จากการพัฒนา T-Cloud Gen3 และซอฟต์แวร์สำหรับโลจิสติกส์ อย่าง Skyfrog รวมถึงยอดขายอุปกรณ์ไอที ที่จะเติบโตตามกระแสการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว เสริมด้วยปัจจัยภายนอก (Inorganic Growth) จากการนำเงินระดมทุนไปใช้ขยายโอกาสในธุรกิจด้านไอทีที่มีศักยภาพ ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงของรายได้ไปพร้อมกับการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่า กำไรสุทธิ 3 ปีนี้ (ปี 2567-69) จะเติบโตเฉลี่ยสูงกว่า 21% ทำให้ประเมินราคาเหมาะสมปีนี้ ต่ำสุดที่ 2.20 บาท เมื่ออิง P/E 15 เท่า และราคาเหมาะสมสูงสุดที่ 2.60-2.70 บาท เมื่ออิง P/E 17-18 เท่า



Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้