โอ้กะจู๋ พร้อมนับหนึ่งแผนขายหุ้น IPO 159 ล้านหุ้น

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง (BLS) ที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. ปลูกผักเพราะรักแม่ (OKJ) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) และแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้เริ่มนับหนึ่งแบบไฟลิ่งแล้วเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าแผนขายหุ้น IPO จำนวน 159 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 26.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ลงทุนขยายธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ทั้งแบรนด์โอ้กะจู๋ และแบรนด์ใหม่ๆ รวมถึงร้าน Ohkajhu Wrap & Roll และ Oh! Juice รวมถึงการสร้างครัวกลางแห่งใหม่ และการพัฒนาด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และระบบขนส่ง ให้มีศักยภาพในการแข่งขันสูงขึ้น สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ตอกย้ำการเป็น King of Organic Salad

ซึ่งนายชลากร เอกชัยพัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OKJ ชี้แจงว่า การเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจให้บริการและจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ จากการปลูกผักแบบเกษตรอินทรีย์ (Organic) หรือใช้วัตถุดิบหลักที่เป็นอินทรีย์ที่มีคุณภาพ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งแบรนด์เดิม และแบรนด์ใหม่ รวมถึงโอกาสต่อยอดในธุรกิจใหม่ๆ สร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคง

ปัจจุบัน OKJ ทำธุรกิจหลัก 3 ประเภท ธุรกิจแรก บริการและจำหน่ายอาหาร รวมทั้งเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพประเภทต่าง ๆ อาทิ สลัด สเต็ก สปาเก็ตตี้ อาหารจานเดียว ขนมหวาน น้ำผักผลไม้ ภายใต้แบรนด์ โอ้กะจู๋ รวมถึงการนำผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์โอ้กะจู๋ เช่น ผัก ผลไม้ สลัด แซนวิช แร็พ ไปวางขายผ่าน 4 ช่องทางหลัก คือ Full-service Restaurant รวม 30 สาขา Delivery and Kiosk จำนวน 4 สาขา Café Amazon กว่า 400 สาขา และ Supermarket รวม 11 สาขา

ธุรกิจที่สอง ร้านอาหารประเภทจานด่วน (Quick Service Restaurant -QSR) ภายใต้แบรนด์ Ohkajhu Wrap & Roll จำหน่ายสลัด แร๊พสลัด แซนวิช เบอร์เกอร์ และเมนูสุขภาพพร้อมหยิบ (Grab & Go) ซึ่งเป็นการต่อยอดเมนูร้านอาหารให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ชีวิตที่เร่งรีบ ซึ่งปัจจุบันได้เปิดตัวสาขาแรกที่ศูนย์การค้า EMSPHERE เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และธุรกิจที่สาม ร้านน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ Oh! Juice ซึ่งเป็นการต่อยอดเมนูน้ำผักออร์แกนิคและผลไม้ที่จำหน่ายในร้านอาหาร มาพัฒนาสูตรเป็นเมนูผักผลไม้สุขภาพ และเสริมคุณค่าโภชนาการด้วยสารอาหารต่างๆ ที่เหมาะกับคนทุกวัย ซึ่งมีอยู่ 2 สาขา ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว และศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน และมีแผนขยายสาขา ทั้งแบรนด์ Ohkajhu Wrap & Roll และ Oh! Juice ให้ครอบคลุมกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตลอดจนการพัฒนาแบรนด์อื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคต

ขณะที่ผลดำเนินงาน 3 ปีล่าสุด (ปี 2564–66) บริษัทฯ มีการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้เพิ่มจาก 803.0 ล้านบาท เป็น 1,214.9 ล้านบาท และ 1,716.8 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ปีละ 46.2% หนุนจากการเติบโตของรายได้สาขาเดิม และรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาใหม่ ประกอบกับการเติบโตของรายได้จากช่องทางจำหน่ายอื่นๆ ส่งผลให้กำไรขยายตัวก้าวกระโดดตามไป จากขาดทุนสุทธิ 84.55 ล้านบาท รับผลกระทบจากการตัดจำหน่ายทรัพย์สินสำหรับสาขาสยามสแควร์ ซอย 7 ที่มีการรื้อถอนจากการถูกเวนคืนพื้นที่ มาเป็นกำไรสุทธิ 38.32 ล้านบาท และ 140.65 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับผลดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2567 นี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 538.4 ล้านบาท เติบโต 48.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 42.92 ล้านบาท เติบโต 28.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน