UBE แตกไลน์ธุรกิจอาหารญี่ปุ่น โอชิเน รับรู้รายได้ปีหน้าเต็มปี หลังธุรกิจหลัก 9 เดือน โต 20%

นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อุบล ไบโอ เอทานอล (UBE) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยแผนธุรกิจช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ว่า ยังคงเดินหน้าต่อยอดธุรกิจเอทานอลและแป้งมันสำปะหลัง ด้วยการให้ความสำคัญการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง เช่น แป้งออร์แกนิค ฟลาวมันสำปะหลัง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ควบคู่ไปกับการมองหาพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้าระดับพรีเมียม สร้างกำไรให้มากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

สำหรับแนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาส 4 คาดว่า จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการแป้งมันสำปะหลังในตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น รับช่วงเทศกาลปลายปี และยังได้อานิสงค์จากราคาวัตถุดิบที่ลดลง ผลักดันให้รายได้เพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจเอทานอล น่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้น้ำมันภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น จากฤดูกาลท่องเที่ยว หนุนให้ยอดขายเอทานอลทั้งปีเติบโต 5-15% ตามแผนที่วางไว้

ส่วนแผนกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจเดิม มาสู่ธุรกิจปลายน้ำ ซึ่งมีศักยภาพการเติบโต และมีความผันผวนต่ำ อย่างธุรกิจร้านอาหาร ล่าสุด บริษัทย่อย อัพบีทส์ กรุ๊ป (UP) ได้เข้าลงทุนในบริษัท โอชิเน เอ็นเตอร์ไพรส์ (OE) ซึ่งทำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น โอชิเน ในสัดส่วน 60% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้พร้อมรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโอชิน ที่เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 10 ปี จากสาขาทั้งหมด 28 แห่ง เต็มปีในปี 2568 เป็นปีแรก โดยวางเป้าหมายธุรกิจอาหาร 5 ปีข้างหน้า มีสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 15% ของรายได้รวม จากการขยายสาขาในทำเลที่มีศักยภาพในต่างจังหวัดเพิ่มปีละ 2-3 สาขา และขยายสาขาในภูมิภาคเพิ่มจากที่มี 1 สาขา ใน สปป. ลาว ซึ่งกำลังศึกษาความคุ้มค่าในการเปิดสาขา 2 ที่เวียดนาม

สำหรับผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 UBE มีกำไรสุทธิ 99.6 ล้านบาท ขยายตัว 380.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามรายได้ที่เติบโต 10.0% เป็น 1,578.5 ล้านบาท หลักๆ มาจากธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง ที่ประสบความสำเร็จจากการส่งออกแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิคเพิ่ม และธุรกิจอื่นๆ ประกอบด้วย รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ การจำหน่ายเมล็ดกาแฟ ข้าว สารปรับปรุงดินอินทรีย์ และหญ้าเนเปีย แม้จะถูกบั่นทอนจากธุรกิจเอทานอลที่ปริมาณการขายลดลง สวนทางราคาขายที่เพิ่มขึ้นก็ตาม กระนั้น การที่ธุรกิจเอทานอล และแป้งมันสำปะหลังตลอด 9 เดือนของปี กลับสามารถสร้างรายได้ได้มากขึ้น หนุนให้ผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้ มีรายได้รวม 5,048.9 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 20.6% ส่งผลให้ทำกำไรสุทธิได้ 249.3 ล้านบาท เติบโต 322.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุน 112.1 ล้านบาท