DUSIT ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 โต 30-35% หวังโชว์กำไรครั้งแรกในรอบ  7 ปี ก่อนเดินหน้าเติบโตในระยะยาว  

บมจ. ดุสิตธานี (DUSIT) รายงานผลดำเนินงานปี 2567 ขาดทุนสุทธิลดลงเหลือ 237 ล้านบาท ดีขึ้น 58.4% จากปีก่อน ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 570 ล้านบาท ตามรายได้จากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจาก 6,023 ล้านบาท เป็น 10,759 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 78.6% จากปีก่อน หนุนจากการเติบโตของรายได้ไตรมาสสุดท้าย สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 6,100 ล้านบาท ช่วยให้กำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตามไปด้วย ไม่ว่าจะเทียบรายไตรมาส (QoQ) หรือรายปี (YoY) โดยทำได้ 310 ล้านบาท สาเหตุจากการส่งมอบงานก่อสร้างพื้นที่อาคารค้าปลีกโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ทำให้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโตมหาศาล จากที่ทำได้หลักล้านบาท พุ่งขึ้นเป็น 3,817 ล้านบาท เช่นเดียวกับธุรกิจโรงแรมได้อานิสงค์จากปัจจัยฤดูกาล กระตุ้นให้มีลูกค้าคนไทยและต่างชาติเดินทางมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการรับรู้รายได้จากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เต็มไตรมาส หลังจากเริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 27 กันยายน ผลักดันให้รายได้เติบโต 59.9% QoQ และเติบโต 12.9% YoY เป็น 1,524 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจอาหารที่สามารถขยายตลาด และได้ลูกค้าใหม่ของบริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง (Epicure) และการเติบโตของธุรกิจเบเกอรี่ และแฟรนไชส์ขนมอบ ของบริษัท บองชู เบเกอรี่ (Bonjour Bakery)ขับเคลื่อนให้รายได้เพิ่มขึ้น 35.7% QoQ และเพิ่มขึ้น 16.9% YoY เป็น 422 ล้านบาท ส่วนธุรกิจการศึกษา เติบโตต่อเนื่องตามการปรับเพิ่มค่าเล่าเรียนสาหรับปีการศึกษาใหม่ของวิทยาลัยดุสิตธานีเป็นหลัก

ความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ทำให้นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ. ดุสิตธานี (DUSIT) ยืนยันว่า ถึงแม้กลุ่มบริษัทฯ จะยังมีภาระดอกเบี้ยจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่เป็นปัจจัยกดดันผลดำเนินงานอีกสักระยะ แต่ จะเริ่มเห็นการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป โดยตั้งเป้าหมายรายได้จากการดำเนินงานเติบโตจากปีก่อน 30-35% แบ่งเป็นรายได้ธุรกิจโรงแรม ไม่นับรวมรายได้จากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ที่กำหนดเป้าหมายการเติบโตของรายได้จากปีก่อน 15-18% ผ่านการรุกขยายพอร์ตโรงแรมในรูปแบบรับจ้างบริหารจัดการโรงแรมเปิดใหม่ 5-7 แห่ง และคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาบริหารเพิ่ม 12-14 แห่ง ส่วนธุรกิจอาหาร วางเป้าหมายการการเติบโตของรายได้ที่ 20-25% จากแผนขยายแฟรนไชส์บองชูเบเกอรี่ เพิ่ม 12-25 สาขา รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรญี่ปุ่น Green House เพื่อขยายตลาด พร้อมกับเริ่มเตรียมความพร้อมในการนำธุรกิจอาหารเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มเติมเข้ามาด้วย

สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะสามารถขับเคลื่อนมูลค่าจากโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค จากการเปิดให้บริการส่วนอาคารสำนักงานและศูนย์การค้าในครึ่งปีหลัง และเริ่มทยอยโอนโครงการพักอาศัยดุสิต เรสซิเดนเซส และ ดุสิต พาร์คไซด์ ช่วงปลายปีนี้ โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 95% ของพื้นที่ขาย ขณะที่ธุรกิจการศึกษา ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10-12% จากแผนบริหารจัดการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ และการเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุน เพื่อลดผลขาดทุนจากการดำเนินงานของโรงเรียนสอนประกอบอาหาร The Food Education Bangkok และ Le Cordon Bleu Dusit   

ซึ่งหากทั้ง 4 ธุรกิจหลักของสามารถเติบโตตามแผนที่วางไว้ จะทำให้บริษัทฯ มีโอกาสพลิกผลดำเนินงานจากที่ขาดทุนต่อเนื่อง 7 ปี มาเป็นกำไรได้ในปีนี้ ก่อนเห็นการเติบโตก้าวกระโดดในปี 2569 จากความสำเร็จของโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค และเดินหน้าสู่โหมดการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ตอกย้ำความสำเร็จจากยุทธศาสตร์การลงทุน 3 ประการที่วางไว้ก่อนหน้านี้ ได้แก่ สร้างสมดุล สร้างการเติบโต และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ