1452 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ (TFM) ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์เศรษฐกิจของไทย ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิ 131.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ผลจากการบริหารจัดการต้นทุนและวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติ และการรุกเดินหน้าปรับพอร์ตสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นเร่งตัวจาก 16.1% ในไตรมาสแรกปีก่อน และ 20.5% ในไตรมาสสุดท้ายปีก่อน ขึ้นมาเป็น 21.7% ทั้งที่รายได้จากการขายจะชะลอเล็กน้อย มาอยู่ที่ 1,231.3 ล้านบาท ผลจากสภาพภูมิอากาศที่ค่อนข้างเย็นช่วงต้นปี ส่งผลต่อการกินอาหารของปลา อีกทั้งการขาดแคลนลูกพันธุ์ปลาในประเทศ ทำให้ยอดขายอาหารปลาลดลง แต่ได้รับการชดเชยจากยอดขายอาหารกุ้งที่โต 9.7% ตามแผนขยายส่วนแบ่งการตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับผลักดันให้อาหารกุ้งมีสัดส่วนยอดขายสูงถึง 63% รองลงไปเป็นอาหารปลา ในสัดส่วน 29% ที่เหลือมาจากอาหารสัตว์บก 7% และอื่นๆ ประมาณ 1%
อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QOQ) ยอดขายจะลดลง 13.9% สาเหตุจากในไตรมาสสุดท้ายปีก่อน มีปริมาณการเลี้ยงกุ้งสูงกว่าปกติ เนื่องจากการขาดแคลนลูกกุ้งในระหว่างปี ประกอบกับราคาผลผลิตปลายทางมีการปรับตัวสูงขึ้น ในช่วงปลายปี ประกอบกับช่วงไตรมาสแรกเป็นโลว์ซีซันของธุรกิจ
โอกาสนี้ นายพีระศักดิ์ บุญมีโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TFM กล่าวถึงแนวโน้มในไตรมาส 2 ว่า จะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ คาดว่าเกษตรกรจะลงลูกกุ้งและลูกปลาเพิ่มขึ้น หนุนให้ยอดขายอาหารสัตว์น้ำเติบโต ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเร่งเพิ่มยอดส่งออก ทั้งการเพิ่มลูกค้าในประเทศใหม่ๆ และการรักษาฐานลูกค้าเดิม ควบคู่ไปกับการเดินหน้ากลยุทธ์ Farmer Engagement ที่มุ่งเน้นการสร้างการมีส่วนร่วมและเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเกษตรกร เพื่อพัฒนาระบบการผลิตร่วมกัน และกลยุทธ์ Sustainability ที่ไม่เพียงแต่ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำให้เติบโตอย่างยั่งยืนตามไปด้วย
ขณะที่แผนลงทุนไลน์การผลิตใหม่ ซึ่งได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จตามกำหนดช่วงกลางปี ส่งผลดีต่ออัตราภาษีในช่วงครึ่งปีหลังตามมาด้วย