1477 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. ซีพี แอ็กซ์ตร้า (CPAXT) ผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีก รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิ 2,643 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน YoY แต่ลดลง 33.2% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) แต่หากตัดรายการพิเศษออกไป จะมีกําไรปกติ 2,622 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.3% YoY แต่ลดลง 36.3% QoQ โดยการลดลง QoQ เป็นไปตามปัจจัยฤดูกาล ส่วนการเพิ่มขึ้น YoY มีสาเหตุจากยอดขายที่เติบโตขึ้นทั้งในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก จากการเปิดสาขาใหม่ การขายนอกร้าน และการขายออนไลน์ที่เติบโตแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอาหารสด กลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (Private label) และสินค้าแบรนด์ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่แม็คโครและโลตัสเท่านั้น (Exclusive brand) ผลักดันให้รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 2.9% มาที่ 124,749 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจค้าส่ง (Makro) 69,926 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3.1%) และธุรกิจค้าปลีก (Lotus's) 54,823 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 2.7%) ซึ่งเป็นไปตามการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของธุรกิจค้าส่งที่เติบโต 1% ดีกว่าธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตเพียง 0.5%
ขณะเดียวกัน การผนึกกำลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานหลังการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มธุรกิจ ยังช่วยให้ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อรายได้ปรับลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น 40 Basis points มาอยู่ที่ 14.5% ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจของ Makro ที่ดีขึ้น ขณะที่ Lotus's ทรงตัว
โอกาสนี้ ผู้บริหารได้ยืนยันแผนดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีด้วยว่า พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์หลัก มุ่งสร้างการเติบโตจากทุกช่องทางจำหน่าย โดยเฉพาะการขายผ่านออนไลน์และการขายนอกร้าน โดยพัฒนาเทคโนโลยีและแพลตฟอร์ม รวมถึงการนำ AI วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบ Hyper-Personalization เพื่อนำเสนอสินค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำมากขึ้น พร้อมเพิ่มอัตราการตัดสินใจซื้อ รวมถึงเร่งขยายสาขา ปรับโฉมสาขา และพัฒนาพื้นที่เช่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันรายได้รวมทั้งปีให้เติบโตจากปีก่อน 5-7% และมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 50-60 Basis points อย่างที่หวัง ควบคู่ไปกับการมุ่งบริหารจัดการด้านการเงินให้มประสิทธิภาพ ทั้งการลดภาระหนี้และการปรับปรุงกระแสเงินสดให้ดีขึ้นต่อเนื่อง เพื่อให้สภาพคล่องมีความแข็งแรงและฐานะทางการเงินที่มั่นคง พร้อมกับสานต่อกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนร่วมกับชุมชนและสังคมอย่างต่อเนื่อง