WHAUP เชื่อ กำไรไตรมาส 2 ฟื้นตัวจากไตรมาสแรกที่ลดลง ทั้ง YoY และ QoQ

บมจ. ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิ 223.8 ล้านบาท ลดลง 52.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และลดลง 5% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ต่ำกว่าที่ตลาดคาด สาเหตุจากไม่มีการรับรู้รายได้เงินชดเชยจากการประกันภัยของโรงไฟฟ้า SPP อย่างไตรมาสแรกปีก่อน ทำให้ส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้าลดลง นอกจากนี้ ยังได้ปัจจัยลบจากส่วนแบ่งกำไรปกติจากโรงไฟฟ้าเก็คโค่วันที่ลดลง เนื่องจากมี Energy Margin ลดลง อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากการบันทึกรายการปรับปรุงทางบัญชี และถูกกดดันจากปริมาณการใช้น้ำที่ลดลงของลูกค้ากลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มปิโตรเคมี ฉุดให้รายได้จากการจำหน่ายน้ำดิบ และน้ำเพื่ออุตสาหกรรมลดลงอีกด้วย ส่งผลให้รายได้รวมลดลง 1.6% YoY และ 20.3% QoQ มาอยู่ที่ 709.0 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม (Value-added product) ในประเทศ และรายได้จากการจำหน่ายในเวียดนามจะเพิ่มขึ้น ตามการขยายพื้นที่การให้บริการ เช่นเดียวกับรายได้จากการขายไฟฟ้า จากโครงการ Solar Rooftop ที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแบบ Private PPA เพิ่มอีก 15 เมกะวัตต์ (MW) ทำให้จำนวนสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสะสมในโครงการ Private PPA เพิ่มเป็น 305 MW ขณะที่กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งหมด อยู่ที่ 980 MW แบ่งเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ดำเนินการแล้ว 704 MW (ในจำนวนนี้เป็นพลังงานหมุนเวียน 176 MW) และอยู่ระหว่างการพัฒนา 277 MW (เป็นโครงการพลังงานหมุนเวียนทั้งหมด)

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารเชื่อว่า แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 2 น่าจะสดใสขึ้น ทำให้คาดหมายว่าแนวโน้มกำไรจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากส่วนแบ่งกำไรของ SPP ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนก๊าซมีแนวโน้มปรับลดลงเร็วกว่าการปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) นอกจากนี้ ปริมาณการขายน้ำมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น จากปริมาณการใช้น้ำของลูกค้ากลุ่มโรงไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นด้วย พร้อมกับยังคงเป้าหมายยอดขายน้ำทั้งปีที่ 173 ล้านลูกบาศก์เมตร และยอดขายไฟฟ้าจากโครงการ Solar Rooftop ทั้งปีให้ได้ 100 MW พร้อมกับเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมที่ลงนามแล้วเพิ่มเป็น 1,185 MW

ประการสำคัญ ในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากค่าธรรมเนียมการใช้น้ำส่วนเกิน จากลูกค้ากลุ่ม Data Center ก่อนจะเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในธุรกิจน้ำ ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป หนุนจากความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นของลูกค้ากลุ่ม Data Center