1536 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิ 176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 177.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 1.8% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยการเติบโตที่สูง YoY หนุนจากปริมาณขายและราคาขายปรับตัวสูงขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งยางแท่ง น้ำมันปาล์มดิบ และพลังงานทดแทน ส่งผลให้รายได้รวมเติบโต 53% YoY และ 7% QoQ ขณะที่การเติบโตที่ต่ำ QoQ เป็นผลจากอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมที่ปรับลดลงจากระดับ 12.3% ในไตรมาสสุดท้ายปีก่อน มาที่ 9.3% สาเหตุจากปริมาณขายที่ลดลง ส่วนหนึ่งเกิดจากยอดขายยางปลอดการตัดไม้ทำลายป่า (EU Deforestation Regulation - EUDR) ที่มีอัตรากำไรขั้นสูง ลดลงจากการเลื่อนการบังคับใช้ยาง EUDR ออกมาเป็นสิ้นปีนี้ อีกส่วนหนึ่งเกิดจากราคารับซื้อยางที่สูง ฉุดให้อัตรากําไรขั้นต้นในธุรกิจยางปรับลดจาก 13.9% ลงมาเหลือ 11.0% แม้บริษัทฯ จะควบคุมค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ TEGH ยังได้เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2 ด้วยว่า น่าจะเติบโตดีขึ้นจากไตรมาสแรก หนุนจากธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบที่เติบโตดีขึ้น จากปริมาณขายที่สูงขึ้น หลังจากผลผลิตปาล์มสดเริ่มทยอยออกมาในตลาด ประกอบกับแผนติดตั้งหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) ลูกใหม่ และหม้อนึ่งปาล์มต่อเนื่อง (Sterilizer) ที่เสร็จสิ้นลงไป ยังจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ดีขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจพลังงานยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจยางน่าจะเติบโตทั้งจากปริมาณขายยาง EUDR ที่เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสแรก และราคาขายยางแท่งที่ได้มีการล็อคราคาขายล่วงหน้าไว้ใกล้เคียงไตรมาสแรก
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายยอดขายยางแท่งทั้งปี ที่ 250,000-280,000 ตัน ในจำนวนนี้เป็นยอดขายยาง EUDR ในสัดส่วน 30-40% ในครึ่งปีแรก ก่อนเพิ่มเป็นมากกว่า 50% ในครึ่งปีหลัง