AURA มั่นใจยุทธศาสตร์ 3 ปี ปั้นกำไร New High หลังไตรมาสแรก All Time High  

บมจ. ออโรร่า ดีไซน์ (AURA) เปิดเผยผลดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิ 398 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 28.3% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) หนุนจากกำไรจากการขายและรับซื้อทองคำที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากยอดขายสาขาเดิม การขยายสาขาเพิ่มจาก 406 สาขาในไตรมาสแรกปีก่อน และ 488 สาขา ในไตรมาสสุดท้ายปีก่อน เป็น 508 สาขา และการปรับขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ รวมถึงการเติบโตของธุรกิจขายฝากทอง (Gold Financing Business) ภายใต้แบรนด์ทองมาเงินไป  ที่สามารถเพิ่มรายได้จากดอกเบี้ยขายฝากสินเชื่อทองคำทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 178 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.7% YoY และ 8.8% QoQ ตามพอร์ตบัญชีลูกหนี้ขายฝาก (AR balance) ที่เพิ่มขึ้นเป็น 5,183 ล้านบาท ผลักดันให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น จาก 10.7% ในไตรมาสแรกปีก่อน และ 10.1% ในไตรมาสสุดท้ายปีก่อน ขึ้นมาที่ 12.2% ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มจาก 3.4% ในไตรมาสแรกปีก่อน และ 3.2% ในไตรมาสสุดท้ายปีก่อน ขึ้นมาที่ 4.5% ดีกว่าที่ตลาดคาด  

อย่างไรก็ตาม การที่ราคาทองปรับขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสสุดท้ายปีก่อน จากความกังวลสงครามการค้าสหรัฐฯ และจีน ส่งผลให้ปริมาณการซื้อทองคำช่วงเทศกาลชะลอตัว และฉุดรายได้จากธุรกิจค้าปลีกทอง ทั้งการขายทองรูปพรรณ ที่มีส่วนประกอบของทองคำบริสุทธิ์ 96.5% (Modern Gold) และเครื่องประดับเพชร รวมทองที่ไม่ใช่ทองรูปพรรณ และสินค้าเสริมสิริมงคล (Design Gold) ลดลง 7.9% QoQ แต่ยังเพิ่มขึ้น 7.7% YoY และมีส่วนผลักดันให้กำไรไตรมาสแรกปีนี้ เติบโตทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High)

โอกาสนี้ นายอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด AURA เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2 ว่า น่าจะเห็นการเติบโตที่โดดเด่นในธุรกิจขายฝากทอง ซึ่งเข้าสู่ช่วง High Season ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกทอง แม้จะเข้าสู่ช่วง Low Season แต่น่าจะเห็นการเติบโตได้ จากการปรับเพิ่มค่ากำเหน็จ 300 บาท สำหรับทองรูปพรรณล็อตใหม่ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา และการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และรูปแบบให้เหมาะสมกับทิศทางราคาทองในขณะนั้น เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรจากราคาทองจากการขายออกและชื้อเข้าจากลูกค้า  

ประการสำคัญ บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าตามแผน 3 ปี (ปี 2568-70) ด้วยการขยายสาขาปีนี้เป็น 644 สาขา ก่อนเพิ่มเป็น 1,070 สาขา ภายในปี 2570 พร้อมกับรุกขยายฐานลูกค้ากลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ผ่านการเพิ่มความหลากหลายของเครื่องประดับ เช่น ทอง 18K ไข่มุก และเครื่องประดับเพชร ก่อนเพิ่มบริการถึงหน้าบ้าน (Delivery) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อขยายฐานรายได้ในธุรกิจค้าปลีกทอง ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจขายฝากทองให้เติบโตก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าขยายพอร์ตลูกหนี้ขายฝากปีนี้เพิ่มเป็น 7,500 ล้านบาท ก่อนทะยานแตะ 20,000 ล้านบาท ในปี 2570 เพื่อยกระดับผลดำเนินงานรายปีให้เติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ตามแผนที่วางไว้ ช่วยผลักดันการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว