SAWAD มั่นใจ กำไรครึ่งปีหลังโตแกร่ง หลังแก้ปัญหาหนี้เสียจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของ SCAP ที่ฉุดผลงานไตรมาสแรกต่ำคาด จบในไตรมาส 2

1960 จำนวนผู้เข้าชม  | 

SAWAD มั่นใจ กำไรครึ่งปีหลังโตแกร่ง หลังแก้ปัญหาหนี้เสียจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของ SCAP ที่ฉุดผลงานไตรมาสแรกต่ำคาด จบในไตรมาส 2




บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) เปิดเผยผลดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1,138 ล้านบาท ลดลง 13% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และลดลง 10% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ต่ำกว่าที่ตลาดคาด สาเหตุจากการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการไหลของหนี้จัดชั้น stage 3 ที่เกิดจากการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในอดีตของ บมจ. ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 (SCAP) ทำให้หนี้เสีย (NPL) ปรับเพิ่มจาก 3.2% ในไตรมาสแรกปีก่อน และ 3.6% ในไตรมาสสุดท้ายปีก่อน มาเป็น 3.8% ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ ด้วยการเพิ่มความระมัดระวังในการคัดกรองลูกหนี้ และเพิ่มเงื่อนไขเงินดาวน์ที่สูงขึ้น รวมถึงปรับลดยอดจัดสินเชื่อ (Loan to Value) สำหรับสินเชื่อจำนำทะเบียน เพื่อจำกัดความเสี่ยง กดดันให้พอร์ตสินเชื่อรวมลดลง 8% YoY และ 3% QoQ  มาอยู่ที่ 92,446 ล้านบาท ประกอบกับการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และการประกาศใช้มาตรการ Responsible Lending ของธนาคารแห่งประเทศไทย ฉุดให้อัตราผลตอบแทนจากสินเชื่อ (Yield on loan) ลดลงจาก 18.3% ในไตรมาสแรกปีก่อน และ 17.8% ในไตรมาสสุดท้ายปีก่อน มาอยู่ที่ 17.3% พร้อมกับกดดันให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 13% YoY และ 5% QoQ  

อย่างไรก็ตาม นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการกลยุทธ์องค์กร SAWAD ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ได้มีการตัดหนี้สูญจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่มีปัญหาแล้วกว่า 90% ตั้งแต่ไตรมาสแรกแล้ว และน่าจะตัดหนี้สูญได้หมดในไตรมาส 2 นี้ ส่งผลให้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (credit cost) ในไตรมาส 2 อาจเร่งตัวจาก 1.78% ในไตรมาสแรก เพิ่มเป็น 1.9% ก่อนจะเริ่มทรงตัว ส่งผลให้เป้า credit cost ทั้งปี อยู่ในกรอบ 1.8-2.0% ตามเป้าหมายเดิม

ขณะเดียวกัน เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้ บริษัทฯ จะยังคงเข้มงวดการปล่อยเชื่ออย่างต่อเนื่อง แต่ปรับกลยุทธ์มาเน้นขยายสินเชื่อจำนำทะเบียนเพิ่มขึ้น สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไม่เน้นการเติบโต ซึ่งจะช่วยให้สินเชื่อไตรมาส 2 ทรงตัวจากไตรมาสแรก ก่อนกลับมาเติบโตในครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ หนุนให้สินเชื่อทั้งปีเติบโต 5-10% ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 10-15% นอกจากนี้ การที่บริษัทฯ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดีขึ้น และการบริหารคุณภาพพอร์ตสินเชื่อได้ดีขึ้น ช่วยให้ต้นทุนการติดตามหนี้ และผลขาดทุนจากการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายลดลง ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า NPL ทั้งปีจะควบคุมได้ในกรอบ 3-4% ตามเป้าหมายที่วางไว้

ที่สำคัญ บริษัทฯ เตรียมปรับแผนจ่ายเงินปันผลปี 2568 จากที่จ่ายเป็นหุ้นปันผลมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา มาเป็นการจ่ายเงินสด ในอัตรา 30-50% ซึ่งในเบื้องต้น ตลาดคาดหมายว่า SAWAD จะจ่ายปันผลในอัตราไม่เกินหุ้นละ 1.50 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนราว 7% อิงราคาหุ้นที่ 20 บาท ช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลงของราคาหุ้นในระยะสั้นได้  




Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้