ATLAS พร้อมเดินสายโรดโชว์ 3 หัวเมืองใหญ่ 25-28 พ.ค. ก่อนปิดท้ายที่กรุงเทพฯ 17 มิ.ย. นี้ คาดขาย IPO ครึ่งปีหลัง

นายอมร พิริยะแพทย์สม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เซจแคปปิตอล (SAGE) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.  แอตลาส เอ็นเนอยี (ATLAS) เปิดเผยว่า หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติแผนเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 418.42 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 29.50% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ที่ราคาพาร์ หุ้นละ 0.50 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้บริษัทฯ พร้อมเดินสายเพื่อนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนจังหวัดสงขลา เชียงใหม่ และนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 25-26 และ 28 พฤษภาคมนี้ ก่อนปิดท้ายที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 17 มิถุนายน ก่อนเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ในครึ่งหลังปี 2568 นี้

ด้านนางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บมจ. หลักทรัพย์ เคจีไอ ประเทศไทย (KGI) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้น ATLAS เสริมว่า การโรดโชว์ครั้งนี้ จะทำให้นักลงทุนเข้าพื้นฐานธุรกิจ โอกาสทางธุรกิจ และศักยภาพการเติบโตในอนาคต จากการนำเงินที่ได้จากการการเสนอขายหุ้น IPO ไปใช้ลงทุนขยายธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LPG และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร ไล่ตั้งแต่การเพิ่มโรงบรรจุก๊าซ การเพิ่มถังบรรจุก๊าซ การเพิ่มสถานีบริการ และร้านจําหน่ายก๊าซ ให้สอดคล้องกับการเติบโตทั้งในภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง ในประเทศ ก่อนขยายโอกาสไปในภูมิภาคอินโดจีน (CLMV) ซึ่งยังมีศักยภาพการเติบโตอยู่มาก

นอกจากนี้ เงินทุนส่วนหนึ่งจะนำมาใช้ในโครงการ PT Auto Transform ด้วยการลงทุนอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บก๊าซ และระบบท่อลำเลียงก๊าซ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิง NGV หันมาใช้ก๊าซ LPG แทน ซึ่งจะสนับสนุนให้สามารถขยายฐานลูกค้าภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง ได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มรถแท็กซี่ ช่วยต่อยอดรายได้จากธุรกิจจำหน่าย LPG ในสถานีบริการไปสู่ธุรกิจสื่อโฆษณาบนรถแท็กซี่ (Taxi Ads) ที่มีอัตรากำไรสูงตามมา ทำให้บริษัทฯ มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น พร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว

ขณะที่นายสุวัชชัย พิทักษ์วงศาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ ATLAS เสริมว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจก๊าซ LPG ตั้งแต่กลางน้ำจนถึงปลายน้ำ ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งภาคครัวเรือน ภาคขนส่ง และภาคอุตสาหกรรม พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจ LPG แบบครบวงจร สร้างการเติบโตทางธุรกิจแบบก้าวกระโดด จากการเพิ่มสถานีบริการและโรงบรรจุก๊าซ LPG ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน รวม 5 แห่ง ช่วยให้บริษัทฯ มีคลังสำรองพร้อมขนส่งก๊าซได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ช่วยให้สามารถขนส่งได้รวดเร็วขึ้น โดยมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขนส่งที่ต่ำลง ขณะที่การเพิ่มถังบรรจุก๊าซ และร้านจำหน่ายก๊าซ LPG ปีนี้ 200 แห่ง จะเพิ่มโอกาสขยายฐานรายได้จากภาคครัวเรือนได้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนการเพิ่มสถานีบริการก๊าซ LPG ที่ดำเนินการโดยบริษัทฯ เอง  28 สาขา ในปีนี้ นอกจากจะขยายฐานรายได้จากภาคขนส่งให้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังจะช่วยให้สามารถบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น เพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นให้สูงกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรม และดีขึ้นจากที่บริษัทฯ ทำได้เฉลี่ย 14-17% ช่วง 3 ปีล่าสุด พร้อมกับเพิ่มศักยภาพการสร้างรายได้จากการขยายฐานลูกค้าตามโครงการ PT Auto Transform ที่สามารถต่อยอดไปยังภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการหารายได้จากธุรกิจใหม่ Taxi Ads ผลักดันให้ผลดำเนินงานระยะสั้นเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ก่อนเติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืนในระยะยาว ทำให้มีความเชื่อมั่นว่า นักลงทุนจะให้การตอบรับการโรดโชว์ และแผนเสนอขายหุ้น IPO เป็นอย่างดี

สำหรับผลดำเนินงาน 3 ปีล่าสุด (ปี 2565-67) บริษัทฯ สามารถเพิ่มปริมาณขายก๊าซ LPG ได้อย่างต่อเนื่องตามแผนขยายธุรกิจ ทำให้รายได้เติบโตจาก 6,829.2 ล้านบาท ในปี 2565 มาเป็น 9,576.9 ล้านบาท และ 11,023.7 ล้านบาท ในปี 2566 และปี 2567 ตามลำดับ แต่การลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น หลักๆ มาจากค่าใช้จ่ายพนักงาน อีกทั้งยังมีค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายที่สูงขึ้นตามมูลค่าสินทรัพย์ที่มากขึ้น จึงกดดันให้กำไรสุทธิมีความผันผวนบ้างบางปี โดยกำไรสุทธิปี 2566 ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ทำได้ 301 ล้านบาท มาอยู่ที่ 228 ล้านบาท ก่อนจะเติบโตเป็น 256 ล้านบาท ในปี 2657 แต่ทั้ง 3 ปี บริษัทฯ ยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในกรอบ 14-17% ได้ตลอด ตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพในการบริหารจัดการสถานีบริก๊าซด้วยตนเอง (Company Owned Company Operate -COCO) เพิ่มแต้มต่อในการก้าวสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซ LPG ยุคใหม่ ที่ให้บริการแบบครบวงจรในประเทศ