1464 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป (BKA) ผู้นำบริการซื้อขายบ้านมือสองตกแต่งใหม่ แจ้งผลดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิ 3.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,089% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) สาเหตุจากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ การลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ และความสำเร็จในการดูแลคุณภาพของบ้าน ช่วยให้สามารถเพิ่มราคาขายเฉลี่ยบ้าน ทั้งในธุรกิจบ้านแต่ง บ้านตัด และบ้านฝากขาย ได้มากขึ้น หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มจาก 8.98% ในไตรมาสแรกปีก่อน ขึ้นมาเป็น 11.01% ทั้งที่ยอดขายบ้านจากทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจจะลดจาก 69 หลัง เหลือ 34 หลัง ส่งผลให้รายได้จากการขายและให้บริการหดตัว 27.6% มาอยู่ที่ 189.8 ล้านบาท ตามภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจบ้านแต่ง สูงถึง 82.2% รองลงไปเป็นธุรกิจบ้านตัด ในสัดส่วน 17.3% ที่เหลือ 5.0% มาจากธุรกิจบ้านฝาก
โอกาสนี้ นายพชร ธนวงศ์เกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BKA ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่า การเติบโตของกำไรสะท้อนให้เห็นถึงการกำหนดกลยุทธ์ในการลงทุนรีโนเวทบ้าน ที่ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกทำเล คุณภาพของผลิตภัณฑ์ การให้บริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน และการตั้งราคาขายที่สร้างผลตอบแทนคุ้มค่า ไม่เน้นเร่งขายในระยะสั้น เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ (Quality Growth) ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืนของบริษัทฯ
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือ คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้บริษัทฯ เตรียมปรับกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยสนับสนุนผลดำเนินงานปีนี้ให้เติบโตจากปีก่อน 15-20% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ก่อนเติบโตแบบก้าวกระโดด ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลดำเนินงานสะสมสิ้นปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (วันขึ้น XD) 26 พฤษภาคมนี้ ก่อนจ่ายเงินตามมาในวันที่ 9 มิถุนายน