1333 จำนวนผู้เข้าชม |
นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ. สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2 ปีนี้ว่า มีทิศทางดีขึ้นจากไตรมาสแรก หนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในตลาดโลกทรงตัวจากไตรมาสแรก ประกอบกับบริษัทฯ มีการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก่อนจะเห็นการเติบโตอย่างโดดเด่นในครึ่งปีหลัง ทั้งจากการเข้าสู่ไฮซีซั่นธุรกิจ และผลสำเร็จจากการปรับกลยุทธ์การขายภายในประเทศมาเน้นตอบความต้องการใช้ก๊าซ LPG ของลูกค้าแต่ละกลุ่มให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการนำเข้าก๊าซ LPG ที่มีแรงดันสูงและเผาไหม้เร็ว หรือเรียกว่าแก๊สเบา เข้ามาให้บริการลูกค้ากลุ่มสถานีบริการก๊าซ LPG และอุตสาหกรรมบางประเภท ส่วนที่เหลือยังคงซื้อจากโรงกลั่นน้ำมันภายในประเทศ ตามเดิม เพราะมีคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับลูกค้ากลุ่มภาคครัวเรือน และอุตสาหกรรมทั่วไปที่ต้องการเปลวไฟที่นิ่ง จากการที่มีสัดส่วนของบิวเทนสูงกว่า ทำให้มีแรงดันต่ำกว่า เผาไหม้ช้า ทำให้เชื่อมั่นว่า จะสามารถผลักดันยอดขายทั้งปีได้ไม่ต่ำกว่า 3.56 ล้านตัน เติบโตจากปีก่อน 10% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนธุรกิจก๊าซ LPG ในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และกลุ่มประเทศแถบเอเชียใต้ เพิ่มเติมจากที่ได้ลงทุนแล้วในมาเลเซีย และเวียดนาม เพื่อสร้างการเติบโตคู่ขนานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อต่อยอดการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับผลดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 125.1 ล้านบาท ลดลง 80.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) สาเหตุจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง 12 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเมตริกตัน มาอยู่ที่ 620 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเมตริกตัน ตามราคาในตลาดโลก และปริมาณขายที่ลดลงในตลาดต่างประเทศ กดดันให้รายได้จากการดำเนินงานลดลง 15.7% YoY มาอยู่ที่ 19,608.7 ล้านบาท ประกอบกับการลงทุนซื้อเรือบรรทุกก๊าซ LPG ในช่วงครึ่งหลังปีก่อน ทำให้ต้นทุนการเงินสูงขึ้น