1377 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. แบงคอก จีโนมิกส์ อินโนเวชั่น (BKGI) ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปี 2568 มีรายได้รวม 81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) แต่ลดลง 18% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยการเติบโต YoY มีสาเหตุจากรายได้จากการขายเครื่องมือห้องปฏิบัติการควบคู่น้ำยารายเดือน รวมถึงการขายน้ำยาเฉพาะทางที่ใชในกระบวนการวิเคราะห์ต่างๆ ภายในห้องปฏิบัติการให้กับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่เติบโตก้าวกระโดด 239% มาอยู่ที่ 18.6 ล้านบาท ช่วยชดเชยรายได้จากการให้บริการตรวจคัดกรอง ที่ลดลง 5%YoY มาอยู่ที่ 59.9 ล้านบาท ตามการลดลงของรายได้จากการตรวจความผิดปกติทางพันธุกรรมด้านอนามัยเจริญพันธุ์ ที่มีสัดส่วนรายได้สูงถึง 90% เนื่องจากการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ ต้องใช้กลยุทธ์ราคาเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ ส่วนการลดลง QoQ เป็นผลจากรายได้จากการขายที่ลดลง 47% และรายได้จากการให้บริการที่เติบโตเพียงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม การรุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่ การตรวจหาความเสี่ยงทางด้านโรคมะเร็ง ทำให้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิปรับลดลงจาก 14.1% ในไตรมาสแรกปีก่อน และ 12.9% ในไตรมาสสุดท้ายปีก่อน มาอยู่ที่ 10.3% และกดดันให้กำไรสุทธิชะลอตัวลง 16% YoY และ 34% QoQ มาอยู่ที่ 8.1 ล้านบาท
โอกาสนี้ ดร. เสาวลักษณ์ ด่านสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BKGI ออกมายืนยันด้วยว่า การปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ โดยหันมาเน้นเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายเพิ่มจาก 5% เป็น 25% และลดสัดส่วนรายได้จากการให้บริการลงจาก 95% เหลือ 75% รวมถึงการขยายการให้บริการใหม่ๆ ด้านการแพทย์จีโนมิกส์ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจหาความเสี่ยงทางด้านโรคมะเร็ง โรคอัลไซเมอร์ โรคหลอดเลือดสมอง ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ตั้งแต่การป้องกัน การคัดกรอง ไปจนถึงการวินิจฉัยที่แม่นยำ นำไปสู่การรักษาที่เหมาะสมและทันท่วงที ครอบคลุมทุกช่วงอายุวัย จะสนับสนุนให้รายได้ทั้งปีเติบโตจากปีก่อน 20-25% พร้อมกับสร้างการเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไปในวงกว้างมากขึ้น ตามแผนที่วางไว้
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เตรียมปิดดีลการลงทุนในธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการแพทย์จีโนมิกส์ ให้ได้ภายในปีนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมต่อยอดนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยจะดำเนินการควบคู่ไปกับการยกระดับการให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม NGS (Next Generation Sequencing) ของ MGI Tech เข้ามาให้บริการในประเทศไทย เพื่อรองรับการตรวจวินิจฉัยทางพันธุกรรม การคัดกรองโรคทางพันธุกรรม และการวิจัยด้านจีโนมิกส์ขั้นสูง ทั้งในภาคสาธารณสุข การแพทย์ และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งจะช่วยดึงดูดฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ให้เติบโตเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังสามารถต่อยอดความร่วมมือกับผู้ผลิตน้ำยาห้องปฏิบัติการต่างๆ เพื่อร่วมกันขยายตลาดผ่านแพลตฟอร์มของ NGS ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด พร้อมต่อยอดสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน อีกทั้งช่วยเพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการตรวจพันธุกรรมคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสมในระยะยาว