1337 จำนวนผู้เข้าชม |
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. แมสเทค ลิ้งค์ (MASTEC) เปิดเผยว่า หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติแผนเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 79 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 26.33% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ที่ราคาพาร์ หุ้นละ 1 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้บริษัทฯ เตรียมเดินสายเพื่อนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เพื่อให้นักลงทุนมีความเข้าใจปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โอกาสการเติบโต แนวนโยบายด้านต่างๆ รวมถึงเป้าหมายในการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ขยายธุรกิจ และสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในจุดแข็งของบริษัทฯ พร้อมร่วมเติบโตไปกับบริษัทฯ ในระยะยาว ตามไปด้วย
ในเบื้องต้น บริษัทฯ พร้อมประเดิมการโรดโชว์ที่จังหวัดชลบุรี จากนั้นจะทยอยเดินสายในภูมิภาคต่างๆ ไล่จากภาคอีสาน มายังภาคเหนือ ภาคใต้ และปิดท้ายที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 2 กรกฎาคม ก่อนเดินหน้าเสนอขายหุ้น IPO เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครึ่งหลังปี 2568
ด้าน ดร. สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ APM เสริมว่า MASTEC ถือเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าและจัดหาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรม ที่ครอบคลุมตั้งแต่ระบบปรับอากาศ สุขาภิบาล อัคคีภัย ความปลอดภัย และพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์ด้านนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนให้คำปรึกษา และนำเสนอโซลูชั่นด้านวิศวกรรมแบบครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจมายาวนานกว่า 25 ปี และมีแผนขยายโอกาสทางธุรกิจผ่านการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ลงทุนผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมสำหรับตลาดอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม และลงทุนสร้าง Synergy Products ของกลุ่มผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัย รวมถึงขยายช่องทางการตลาดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ส่วนที่เหลือนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
ส่วนนายดุษฎี มีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTEC ชี้แจงว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำเข้าและจัดหาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรม โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายให้แก่ซัพพลายเออร์ชั้นนำในระดับสากลรวม 30 ราย ในจำนวนนี้เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive Distributor) จำนวน 6 แบรนด์ ได้แก่ FRESE, FIVALCO, CHANGDER, FIREGUARD, ECO-WATER/ENVIROSWIM และ BOCA อีกทั้งยังเป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากซัพพลายเออร์มากกว่า 150 แบรนด์ ใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก กลุ่มแรก เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล ได้แก่ อุปกรณ์ประกอบระบบทำความเย็นขนาดใหญ่ด้วยน้ำ (Chiller) และทำความเย็นด้วยน้ำยา (Refrigerant) อุปกรณ์ประกอบระบบระบายความร้อนออกจากเครื่องทำความเย็นด้วยน้ำ (Water Cooled) เช่น วาล์วเปิดปิดน้ำ (Manual Valve) วาล์วควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ( 2way และ PICV Control Valve) หอผึ่งน้ำ (Cooling Tower) ระบบบำบัดน้ำ (Water Treatment system) สำหรับน้ำเย็นและน้ำระบายความร้อนเพื่อให้ระบบปรับอากาศทำงานได้ประสิทธิภาพสูงสุด ท่อส่งลมเย็นพร้อมฉนวนกึ่งสำเร็จรูป (Pre-Insulated Duct: PID) ท่อทองแดงเพื่อส่งจ่ายน้ำยาแอร์ในระบบปรับอากาศขนาดเล็กถึงขนาดกลาง วาล์วควบคุมอัตโนมัติทั้งความดันและอัตราการไหล เครื่องสูบน้ำระบบบำบัดน้ำเสีย เครื่องสูบน้ำดี
กลุ่มที่ 2 เป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันอัคคีภัยและผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย ประกอบด้วย อุปกรณ์ประกอบระบบดับเพลิงอัตโนมัติด้วยน้ำทั้งระบบ เริ่มตั้งแต่ปั๊มน้ำดับเพลิง (Fire Pump) เพื่อสูบน้ำเข้าระบบดับเพลิง หัวกระจายน้ำดับเพลิง (Sprinkler) ตู้ดับเพลิงพร้อมทั้งวาล์วที่แจ้งสถานะความพร้อมของระบบดับเพลิงและแจ้งเตือนเพลิงไหม้ และอุปกรณ์ประกอบระบบป้องกันไฟลามในระบบโครงสร้างอาคารและพื้นที่ช่องเปิดเพื่อป้องกันไฟลุกลาม
กลุ่มที่ 3 เป็นผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม อย่าง Cooling Tower ปลอดสารเคมีเพื่อกำจัดตะไคร่และเชื้อ legionellosis ที่ทำให้ปอดอักเสบเฉียบพลัน อีกทั้งยังป้องกันการเกิดตระกรัน รวมถึงกำจัดตระกรันที่มีอยู่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบปรับอากาศและลดการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างยั่งยืน อุปกรณ์ประกอบระบบบำบัดและฆ่าเชื้อโรคในน้ำสำหรับสระว่ายน้ำโดยไม่ใช้สารเคมี เพื่อทดแทนระบบคลอรีนหรือคลอรีนจากเครื่องเกลือ ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยตามมาตรฐาน NSF ของอเมริกา อุปกรณ์ประกอบระบบกำจัดฟองอากาศและควบคุมความดันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ ช่วยลดใช้พลังงานและสารเคมีรวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษาและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น อุปกรณ์ประกอบระบบโซลาร์เซลล์ ประกอบไปด้วย แผ่น Solar Cell, Inverter, Mounting Equipment, PV Cable และ Battery และอุปกรณ์ประกอบระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) พร้อมระบบ Web Application เพื่อช่วยให้สามารถบริหารจัดการได้มีประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของตัวเอง ภายใต้แบรนด์ VALOR ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์วาล์วที่ใช้ในระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล และแบรนด์ ZERO FIRE ที่เป็นอุปกรณ์ตู้ดับเพลิงอีกด้วย
สำหรับผลดำเนินงาน 3 ปีล่าสุด (ปี 2565-67) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 29.42 ล้านบาท 42.35 ล้านบาท และ 41.92 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่รายได้รวมทำได้ 936.66 ล้านบาท 984.46 ล้านบาท และ 943.22 ล้านบาท ตามลำดับ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาลมีสัดส่วนรายได้สูงที่สุด เกือบ 61% รองลงไปเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ป้องกันอัคคีภัยและผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยราว 35% ที่เหลือมาจากผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ในจำนวนนี้เป็นแบรนด์สินค้าของบริษัทฯ ในสัดส่วนประมาณ 21.30% 20.5% และ 23.6% ตามลำดับ