PTT ยังครองเบอร์ 1 ในไทย และเบอร์ 2 ในระดับภูมิภาค ของ Fortune Southeast Asia 500

บมจ. ปตท. (PTT)  ได้รับเลือกจาก Fortune Southeast Asia 500 ให้เป็นบริษัทที่มีรายได้สูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำปี 2568 เป็นอันดับ 1 ในไทย และอันดับ 2 ในภูมิภาคอาเซียน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ตอกย้ำให้เห็นถึงความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการยั่งยืนอย่างสมดุล ตามวิสัยทัศน์ ปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทยและเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน (TOGETHER FOR SUSTAINABLE THAILAND, SUSTAINABLE WORLD)  พร้อมกับบ่งชี้ให้เห็นด้วยว่า บริษัทฯ เดินกลยุทธ์ถูกทิศทาง สามารถรับมือกับปัจจัยภายนอกและความท้าทายได้เป็นอย่างดี 

ทั้งนี้ ปตท. มุ่งเน้นธุรกิจหลัก Hydrocarbon สร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ สร้างการเติบโตควบคู่กับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านการแสวงหาแหล่งพลังงานให้กับประเทศ ผ่านธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ซึ่งมีการเติบโตที่ดีในต่างประเทศ จากการสร้างมูลค่าเพิ่มในธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการซื้อขาย LNG ในภูมิภาค รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ตลอดจนปรับพอร์ตธุรกิจ Non-Hydrocarbon ไปยังธุรกิจที่มีความน่าสนใจ (Attractiveness) และกลุ่มบริษัทฯ มีจุดแข็ง (Right to Play) อีกทั้งมีพันธมิตรที่แข็งแรง ตลอดจนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง

ขณะเดียวกัน กลุ่ม ปตท. ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2593 โดยดำเนินการอย่างบูรณาการร่วมกันทั้งกลุ่ม ปตท. ศึกษาความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage: CCS) รวมถึงพัฒนา CCS Hub Model เพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจทั้งกลุ่ม และอุตสาหกรรมในประเทศ รวมถึงโอกาสขยายผลสู่ระดับภูมิภาคในอนาคตต่อไป พร้อมแสวงหาโอกาสในธุรกิจไฮโดรเจนสำหรับภาคอุตสาหกรรม จัดหาไฮโดรเจนและแอมโมเนียคาร์บอนต่ำ และการประยุกต์ใช้ในภาคการผลิตไฟฟ้าเพื่อเป็นต้นแบบในการขยายผลเชิงธุรกิจ

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังจะเร่งสร้างความแข็งแรงภายใน ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มจากความร่วมมือภายในกลุ่ม ผ่านโครงการสำคัญต่างๆ ทั้งเพื่อยกระดับ Operational Excellence เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และมีแผนงานและเป้าหมายเป็นรูปธรรม มีการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ยกระดับผลกำไร อีกทั้งเสริมความแข็งแกร่งด้วยการรักษาวินัยทางการเงินและการลงทุนอย่างเคร่งครัด ตลอดจนบริหารสภาพคล่องกระแสเงินสดภายในกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพ ยึดหลักการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล (Good Governance) ดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างสมดุล สร้างผลตอบแทนที่เหมาะสม พัฒนาคุณภาพชีวิตของสังคมไทย เพื่อสร้างคุณค่าให้สังคมและผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน