SAK พร้อมคุมเข้มสินเชื่อครึ่งปีหลังมากขึ้น หลังครึ่งปีแรก สินเชื่อโตสองหลัก NPL ทรงตัวที่ 2.6%

บมจ. ศักดิ์สยามลิสซิ่ง (SAK) ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยภายใต้แบรนด์ศักดิ์สยามลิสซิ่ง ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 215.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) แต่ลดลง 3.8% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยการเติบโต YoY มีผลจากการขยายสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ และรถเพื่อการเกษตร ได้เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับความต้องการเงินทุนหมุนเวียนของเกษตรกรที่เร่งตัวขึ้น รับการเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูก และการขยายสาขาเพิ่ม 50 สาขา ในไตรมาสแรก เป็น 1,079 สาขา ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ในวงกว้างมากขึ้น ผลักดันให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 12.1% เป็น 826.7 ล้านบาท อีกทั้งการบริหารจัดการต้นทุนและความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการติดตามและจัดเก็บหนี้ให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อ (Credit Cost) และหนี้เสีย (NPL) ทรงตัวที่ 1.6% และ 2.6% ตามลำดับ ส่วนการลดลง QoQ เป็นผลจากการขยายสาขา และการมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการปิดกิจการบริษัทย่อย ศักดิ์สยาม เมกเกอร์โดรน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 10.1% เป็น 405.3 ล้านบาท อีกทั้งการขยายสินเชื่อ ทำให้ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น 4.3% เป็น 101.3 ล้านบาท เพราะแหล่งเงินทุนของบริษัทฯ ราว 95% มาจากการกู้ยืมสถาบันการเงิน  

อย่างไรก็ดี การเติบโตของสินเชื่อในครึ่งปีแรก ทำให้พอร์ตสินเชื่อโดยรวมเติบโต 14% จากครึ่งแรกปีก่อน (YoY) มาอยู่ที่ 14,900 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 12.5% YoY เป็น 1,625.1 ล้านบาท หนุนให้กำไรสุทธิเร่งตัว 11.6% เป็น 439 ล้านบาท ตามไปด้วย  

ขณะเดียวกัน นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ SAK ได้ออกมายืนยันแผนธุรกิจครึ่งปีหลังว่า พร้อมขยายพอร์ตสินเชื่ออย่างระมัดระวังต่อเนื่อง เน้นไปที่สินเชื่อที่มีหลักประกัน อย่างสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ รถเพื่อการเกษตร สินเชื่อที่ดิน รวมถึงสินเชื่อโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) จับกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือเกษตรกรที่ได้รับผลดีจากสภาพอากาศ เป้นเป้าหมายหลัก โดยตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโต 8-10% แตะ 15,500 ล้านบาท ควบคู่ไปกับการควบคุมคุณภาพสินเชื่อ และจัดเก็บหนี้ให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อคุม NPL ให้ต่ำกว่า 2.6%