BAM เปิดเกมลุยธุรกิจเต็มสูบครึ่งปีหลัง หลังครึ่งแรกผลงานเด่น ดันกำไรโต 72% ทะลุ 1.3 พันล้านบาทแกร่ง

บมจ. บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1,294 ล้านบาท เติบโต 184% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเติบโต 497% จากไตรมาสแรก (QoQ) ทำสถิติสูงสูงเป็นประวัติการณ์รายไตรมาส สาเหตุจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโตถึง 51% YoY และ 110% QoQ หลังจากบริษัทฯ สามารถปิดการขายที่ดินที่เชียงใหม่ มูลค่ากว่า 1,450 ล้านบาท และได้รับชำระหนี้จากลูกหนี้ NPL รายใหญ่ มูลหนี้กว่า 2,800 ล้านบาท อีกทั้งมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน บบส. อรุณ (ARUN AMC) และ บบส.อารีย์ (ARI AMC) ที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ จากความสำเร็จในการติดตามหนี้ที่ทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่การจัดเก็บเงินสด(Cash collection) ทำได้เพิ่มขึ้น 76% YoY และ 118% QoQ มาอยู่ที่ 6,962 ล้านบาท พร้อมกับหนุนให้ผลดำเนินงานครึ่งแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1,511 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72% จากครึ่งแรกปีก่อน ตาม Cash collection ที่เพิ่มขึ้น 36%เป็น 10,154 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 17,800 ล้านบาท

โอกาสนี้ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAM ชี้แจงแผนงานครึ่งปีหลังด้วยว่า พร้อมเดินหน้าธุรกิจ Opportunities for All เชิงรุก ทั้งกลยุทธ์ NPA Partnership ด้วยการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developers) หรือสถาบันการเงิน เพื่อช่วยกันปรับปรุงและเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินรอการขาย โดยมีการสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการปรับปรุงโดยมืออาชีพ ช่วยลดระยะเวลาการถือครองทรัพย์ พร้อมกับสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมในการดำเนินธุรกิจ และกลยุทธ์ Opportunities for All เพื่อให้โอกาสลูกหนี้ได้หลักประกันซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย หรือที่ทำกินกลับคืนไป ด้วยเงื่อนไขที่ผ่อนปรน และมุ่งช่วยเหลือลูกหนี้ลูกหนี้ที่ถูกจัดชั้นเป็นหนี้เสีย (NPL) พลิกฟื้นกลับมาเป็นลูกหนี้ที่มีศักยภาพในการชำระหนี้ได้อย่างสม่ำเสมอ (Reperforming Loan - RPL) สามารถฟื้นฟูสถานะทางการเงินของตนเองหรือกิจการ เปิดโอกาสให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้อีกครั้ง ซึ่งได้มีการหารือเบื้องต้นกับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อกำหนดรหัสใหม่ให้กับลูกหนี้ที่ผ่อนชำระดีต่อเนื่อง โดย BAM จะทำหน้าที่ช่วยกลั่นกรองและปรับสภาพหนี้ (Buffer) ของลูกหนี้ เพื่อเป็นการลดภาระหนี้ของสถาบันการเงิน ซึ่งจะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยสินเชื่อออกมาได้มากขึ้น

นอกจากนี้ BAM เตรียมเปิดตัวโครงการทรัพย์มหาชน สำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยราคาไม่แพง สามารถผ่อนชำระกับ BAM โดยตรง หรือสถาบันการเงินพันธมิตรที่ปล่อยสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ BAM เพิ่มเติม เพื่อผลักดันผลดำเนินงานให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีแผนจะซื้อหนี้เข้ามาบริหารในพอร์ตเพิ่ม 8,000 ล้านบาท เนื่องจากประเมินว่า ธนาคารจะนำ NPL ออกมาขายในปริมาณที่สูงขึ้น หลังจากมีความล่าช้าในครึ่งปีแรก โดยการซื้อหนี้จะมีหลักเกณฑ์ที่วางไว้อย่างรัดกุม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงมีแผนจะขาย NPA มูลค่าราว 500 ล้านบาท ในครึ่งปีหลัง ซึ่งอาจทำให้เป้าหมาย Cash collection เร่งตัวขึ้นมาเป็น 18,000 ล้านบาท