PLUS มั่นใจไตรมาส 3 โชว์กำไร อานิสงค์ยอดขายตลาดอเมริกาและจีนโตแกร่ง

1801 จำนวนผู้เข้าชม  | 

PLUS มั่นใจไตรมาส 3 โชว์กำไร อานิสงค์ยอดขายตลาดอเมริกาและจีนโตแกร่ง


 

 

บมจ. โรแยล พลัส (PLUS) รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 16.9 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 138.1% จากไตรมาสแรก (QoQ) แต่ลดลง 48.5% จากไตรมาส 2 ปีก่อน (YoY) โดยการเพิ่มขึ้น QoQ มีสาเหตุจากยอดขายที่เติบโต 63.4% มาอยู่ที่ 467.6 ล้านบาท หนุนจากยอดขายสินค้ากลุ่มน้ำมะพร้าว และนมมะพร้าว ที่เพิ่มขึ้นในอเมริกา ทั้งจากการเข้าสู่ช่วง High Season และการได้รับคำสั่งซื้อล่วงหน้าเพื่อเตรียมรับมือการขึ้นภาษีนำเข้าอย่างเป็นทางการ ประกอบกับเริ่มรับรู้รายได้จากการรับจ้างผลิตน้ำมะพร้าวให้กับลูกค้ารายใหญ่ในจีน อีกทั้งยอดขายน้ำมะพร้าว และนมมะพร้าว สามารถชดเชยยอดขายเครื่องดื่มเม็ดแมงลัก และเมล็ดเจีย ที่ลดลงในยุโรปได้ทั้งหมด ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นดีดตัวจาก 3.8% ในไตรมาสแรก ขึ้นมาเป็น 17.4% ส่วนการลดลง YoY เป็นผลจากต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงพัฒนาสายการผลิตใหม่ จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง และยังใช้กำลังการผลิตได้ไม่เต็มประสิทธิภาพตามที่คาด เมื่อเทียบกับยอดขายโดยรวมที่ทรงตัว จึงกดดันให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 25.1% ในไตรมาส 2 ปีก่อน ลงมาอยู่ที่ 17.4% รวมถึงการมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น หลักๆ จากค่าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และค่าใช้จ่ายทางการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายน้ำมะพร้าว 100% ที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากยอดขายที่ลดลงในช่วงครึ่งแรกปีนี้ 3.8% จากครึ่งแรกปีก่อน มาอยู่ที่ 753.7 ล้านบาท สวนทางต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้น 11% จากครึ่งแรกปีก่อนเป็น 661.6 ล้านบาท รวมถึงผลขาดทุนสุทธิ 44.1 ล้านบาท ในไตรมาสแรก สร้างแรงกดดันให้ผลดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของ PLUS ยังคงขาดทุนสุทธิ 27.1 ล้านบาท เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 45.6 ล้านบาท ในครึ่งแรกปีก่อน

กระนั้น นายแสงพล แซ่แบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ ออกมายืนยันว่า พร้อมพลิกฟื้นผลดำเนินงานครึ่งปีหลังให้กลับมามีกำไรสุทธิ จากแผนรุกขยายตลาดทั่วโลก เพื่อเปิดดีลการค้ากับลูกค้าใหม่ๆ หลายราย และการขยายโอกาสทางธุรกิจ ผ่านการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง อาทิ Fine Food Australia และ Anuga Germany โดยชูจุดแข็งด้านความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดโลกได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนเดินหน้าขยายตลาดที่มีศักยภาพอย่างเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นตลาดอเมริกา ที่เริ่มส่งออกผลิตภัณฑ์ Co-Brand ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น เพื่อวางจำหน่ายในห้างค้าปลีกระดับประเทศ Walmart ในไตรมาส 3 พร้อมรับรู้รายได้ทันที และได้เตรียมแผนรองรับอัตราภาษีนำเข้าที่ 19% ไว้ล่วงหน้าแล้ว รวมถึงการเร่งส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้ารายใหญ่ในจีน และลูกค้ารายใหม่ ที่ส่งคำสั่งซื้อเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน จะยังคงควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม เพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้น เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเมื่อประเมินจากคำสั่งซื้อที่ได้รับล่าสุด มีความเป็นไปได้สูงว่า จะเห็นรายได้เติบโตทำสถิติสูงสุดรายไตรมาส ได้ในไตรมาส 3 นี้ ทำให้สามารถพลิกผลดำเนินงานกลับมามีกำไรสุทธิได้ทันที

 

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้