SNNP ดีเดย์ปันผล 0.25 บาท ขึ้น XD 21 ส.ค. เติมพลังก่อนลุยปั้นผลงานครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง

บมจ. ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ชี้แจงผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 129.8 ล้านบาท ลดลง 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และลดลง 23.8% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ต่ำกว่าที่ตลาดคาด จากหลายสาเหตุ ทั้งยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนการเงินที่สูงขึ้น โดยรายได้จากการขายลดลง 7.8% YoY และลดลง 6.6% QoQ มาอยู่ที่ 1,388.0 ล้านบาท หลักๆ จากยอดขายในประเทศ (สัดส่วนรายได้สูงกว่า 80%) ที่ลดลง 2% YoY และ 6.3% QoQ จากแรงกดดันของภาวะเศรษฐกิจ และฤดูฝนที่มาเร็วกว่าคาด ฉุดให้ยอดขายกลุ่มเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นชะลอตัว ขณะที่ยอดขายในตลาดต่างประเทศก็หดตัว 26.4% YoY และ 8% QoQ จากปัญหาการจัดระบบ VAT ในเวียดนาม และการเปลี่ยนผู้กระจายสินค้าในฟิลิปปินส์ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นอ่อนตัวลงมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด ประกอบกับอัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้รวม (SG&A) สูงขึ้นจากค่าใช้จ่ายในการทําการตลาด และการเปิดตัว presenters คนใหม่ และต้นทุนการเงินที่สูงขึ้น ทําให้ดอกเบี้ยจ่ายสูงกว่าคาด

อย่างไรก็ตาม การที่ยอดขายในประเทศช่วงครึ่งปีแรกเติบโต 3.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ช่วยชดเชยยอดขายในตลาดต่างประเทศที่ลดลง 22.2% ส่งผลให้รายได้จากการขายครึ่งปีแรกลดลง 2.4% มาอยู่ที่ 2,873.5 ล้านบาท อีกทั้งการควบคุมต้นทุนวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้น 0.7% เป็น 29.9% ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลงเพียง 6.1% มาอยู่ที่ 300.2 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ พร้อมจ่ายปันผลสำหรับผลดำเนินงานครึ่งปีแรก ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (วันขึ้น XD) 21 สิงหาคมนี้ ก่อนจ่ายเงินปันผลตามมาในวันที่ 5 กันยายนที่จะถึงนี้   

ขณะเดียวกัน นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ SNNP ได้ออกมาชี้แจงแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังว่า น่าจะเห็นการฟื้นตัวของยอดขายในเวียดนามได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ผลักดันให้รายได้ทั้งปีน่าจะทำได้ราว 650 ล้านบาท ส่วนยอดขายในประเทศ น่าจะเห็นการฟื้นตัวอย่างโดดเด่นในไตรมาสสุดท้าย หนุนจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ การใช้กลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจร เดินหน้าสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัลและ KOL ทั้งสายบิวตี้และสายไลฟ์สไตล์ และจัดแคมเปญเพื่อดึงดูดผู้บริโภค เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพต่อเนื่อง ซี่งจะสนับสนุนให้ยอดขายในประเทศทั้งปีเติบโต 7-8% ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 10-12% เพียงเล็กน้อย