FM ปันผล 0.15 บาท ขึ้น XD 28 ส.ค. ไก่แปรรูปยังเป็นพระเอก ก่อนลุยธุรกิจธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงต่อ

บมจ. ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) ผู้นำการพัฒนาอาหารแปรรูปปรุงสุกจากเนื้อไก่ (CAV) ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตรายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 190 ล้านบาท ลดลง 22.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และลดลง 4% จากไตรมาสแรกปีนี้ (QoQ) โดยการลดลง YoY มีสาเหตุจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง โดยราคาขายเนื้อไก่ดิบลดลง 3 บาท มาอยู่ที่กิโลกรัมละ 57 บาท ส่วนราคาขายไก่แปรรูปปรุงสุกลดลง 12 บาท มาที่กิโลกรัมละ 135 บาท กดดันให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมลดลงจาก 17.3% เหลือ 15.3% ทั้งที่ปริมาณขายโดยรวม ทั้งในประเทศและภูมิภาคยุโรป จะเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังถูกกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นกว่า 9% และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่สูงขึ้นเนื่องจากมีบัตรส่งเสริมการลงทุนบางรายการหมดอายุระหว่างปี ฉุดให้อัตรากำไรสุทธิลดลง 2.8% มาที่ 10.2% ทั้งที่รายได้รวมจะประคองตัวบริเวณ 1,863 ล้านบาท ส่วนการลดลง QoQ ถูกกระทบจากอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมที่ลดลงจาก 16.2% เหลือ 15.3% ทั้งที่รายได้รวมเพิ่มขึ้น 2.4% หนุนจากราคาขายเนื้อไก่ดิบที่สูงขึ้นกิโลกรัมละ 0.20 บาท และปริมาณขายไก่แปรรูปปรุงสุกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ปริมาณขายโดยรวมที่เพิ่มขึ้น

การเติบโตของธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุก ทั้งด้านปริมาณขาย และรายได้จากการขาย ทั้งไตรมาสแรก และไตรมาส 2 ช่วยขับเคลื่อนให้ผลดำเนินงานครึ่งแรกปีนี้เติบโตดีขึ้นกว่าครึ่งแรกปีก่อน (YoY) โดยรายได้รวมสูงขึ้น 2% เป็น 3,682 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 1% มายืนที่ 15.7% ขณะเดียวกัน การให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่าย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ยังช่วยให้อัตรากำไรสุทธิเร่งตัวขึ้น 0.3% มาที่ 10.5% สนับสนุนให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5% เป็น 388 ล้านบาท พร้อมกับเพิ่มความเชื่อมั่นให้ผู้บริหาร FM มั่นใจว่า จะสามารถผลักดันรายได้ทั้งปี 2568 ให้เติบโต 12-15% ตามแผนที่วางไว้ ก่อนทะยานสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) แตะ 10,000 ล้านบาท ในปี 2570   

ซึ่งนายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FM ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การเติบโตตามแผน 3 ปี จะมาจากการเติบโตทั้งจากภายใน (Organic Growth) และภายนอก (Inorganic Growth) โดยการเติบโตแบบ Organic Growth จะมาจากการเพิ่มกำลังการผลิตโรงเชือดอีกประมาณ 25 % และเพิ่มกำลังการผลิตโรงงานแปรรูปปรุงสุกจากปีละ 27,000 ตัน เป็น 36,000 ตัน เพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รับแผนขยายฐานลูกค้ากลุ่ม Premium และร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ที่เป็น Global Brand ส่วนการเติบโตแบบ Inorganic Growth จะมาจากการขยายโอกาสเข้าสู่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง โดยเน้นใช้วัตถุดิบจากไก่เพื่อเพิ่มมูลค่า ผ่านการจับมือกับพันธมิตร ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนภายในปีนี้

โอกาสนี้ บริษัทฯ พร้อมจ่ายปันผลสำหรับผลดำเนินงานครึ่งปีแรก ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (วันขึ้น XD) 28 สิงหาคมนี้ และกำหนดจ่ายเงินวันที่ 9 กันยายนที่จะถึงนี้