KKP จับมือ SCCC และ SENA ร่วมมือลดการปล่อยคาร์บอน เพิ่มแต้มต่อในการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน

บมจ. ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) ลงนามบันทึกความร่วมมือกับ บมจ. ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) และบริษัท เสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่ ในเครือ บมจ. เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เพื่อผลักดันภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยให้ลดการปล่อยคาร์บอน และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งสถาบันการเงินต่างๆ เริ่มใช้เกณฑ์ ESG Credit Scoring ประกอบการพิจารณาปล่อยสินเชื่อ ซึ่งจะส่งผลให้โครงการที่ไม่มีกลยุทธ์ด้านการลดคาร์บอนอาจถูกจำกัดการเข้าถึงเงินทุน หรือมีต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น และการที่สหภาพยุโรปเริ่มบังคับใช้มาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism - CBAM) แล้ว ซึ่งจะทำให้นานาชาติหันมาใช้เกณฑ์ดังกล่าวแพร่หลายขึ้น ในอีกไม่นานนี้

นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ ประธานสายสินเชื่อธุรกิจและประธานสายสินเชื่อบรรษัท KKP อธิบายว่า การที่ภาคก่อสร้างเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันดับ 3 ของประเทศ การปรับตัวจึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน เพื่อร่วมมือกันสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับสังคม ควบคู่ไปกับการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไทยสามารถเข้าถึงเงินทุนในต้นทุนที่ต่ำ รวมถึงเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีสีเขียวในการก่อสร้าง ทำให้ธนาคารเดินหน้าขยายความร่วมมือกับท้ง SCCC และกลุ่ม SENA เป็นรายล่าสุด หลังจากได้มีการลงนามความร่วมมือกับอีก 7 องค์กรชั้นนำ แล้วก่อนหน้านี้ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไทยให้เปลี่ยนผ่านสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามหลักเกณฑ์ ESG ได้อย่างเป็นรูปธรรม สามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ของประเทศ ได้ภายในปี 2608 สอดคล้องกับแผนดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของทั้ง 3 องค์กร

ซึ่งนายสิทธิศักดิ์ เล้าจินตนาศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ ภายใต้แบรนด์ปูนอินทรี SCCC ชี้แจงว่า กลุ่มบริษัทฯ ยึดมั่นในแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลสิ่งแวดล้อม จึงมุ่งเน้นลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้ในทุกขั้นตอนการผลิตปูนซีเมนต์และคอนกรีต ตลอดจนเดินหน้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ตลาด ทั้งด้านความแข็งแรง และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผู้บริโภค โดยตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้ต่ำกว่า 470 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ต่อตัน ภายในปี 2573 ตามแผนพัฒนาที่ยั่งยืนของกลุ่มบริษัทฯ (INSEE Sustainability Ambition 2030)

ขณะที่ ผศ. ดร. เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ SENA ยืนยันว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่กลุ่มบริษัทฯ เดินหน้ามาโดยตลอด เพื่อส่งต่อ Decarbonized Lifestyle ที่ทำให้ลูกบ้านใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ พร้อมกับมีส่วนร่วมในการดูแลโลกไปพร้อมกัน ตอกย้ำบทบาทในการเป็นผู้นำด้านการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน (Sustainable Living Leader) ที่พร้อมสร้างคุณค่าให้กับทั้งผู้บริโภค ธุรกิจ และสังคมในระยะยาว ที่บริษัทฯ ยึดมั่นมาโดบตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา