STA ขอพลิกฟื้นผลดำเนินงานครึ่งปีหลังกลับมามีกำไร หลังผลดำเนินงานไตรมาส 2 พลิกขาดทุน จากอัตรากำไรทรุด

บมจ. ศรีตรังแอโกร อินดัสทรี (STA) ผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางอันดับหนึ่งของประเทศ ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2568 มีรายได้จากการขายและบริการ 30,841.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) สาเหตุจากราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายยาง ทั้งยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน และน้ำยางข้น ที่เพิ่มขึ้น แต่ลดลง 10.3% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงตามราคายางพาราในตลาดโลกที่ปรับฐานอย่างรวดเร็วกว่า 20% จากความกังวลผลกระทบของมาตรการภาษีตอบโต้ของอเมริกา

ทั้งนี้ รายได้จากธุรกิจยางอยู่ที่ 24,857.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.6% YoY ตามราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น 2.4% และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 20.7% เป็น 397,461 ตัน ถือเป็นการเติบโตต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 7 โดยมีปริมาณขายยาง EUDR ที่ 52,511 ตัน คิดเป็นสัดส่วน 13.2% ของปริมาณขายทั้งหมด เติบโตถึง 3,308.4% YoY แต่ลดลง 10.7% QoQ จากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง 10.9% ทั้งที่ปริมาณขายจะเพิ่มขึ้น 0.1% ส่วนรายได้จากธุรกิจถุงมือยาง อยู่ที่ 5,970.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% YoY ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 7.9% ขานรับการฟื้นตัวของอุปสงค์ทั่วโลก แต่ลดลง 8.4% QoQ ทั้งจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง 8.3% มาอยู่ที่ 647 บาท/พันชิ้น และปริมาณขายที่ลดลง 1.1%  

อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการตั้งค่าเผื่อการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ (NRV) เพิ่มเติมเข้ามา 334.2 ล้านบาท ฉุดให้อัตรากำไรขั้นต้นทั้งในธุรกิจยาง และถุงมือยางทรุดตัวค่อนข้างรุนแรง โดยอัตรากำไรขั้นต้นในธุรกิจยางปรับลดจาก 10.8% ในไตรมาส 2 ปีก่อน และ 8.0% ในไตรมาสแรกปีนี้ ลงมาที่ 3.8% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในธุรกิจถุงมือยางปรับลดจาก 13.5% ในไตรมาส 2 ปีก่อน และ 13.0% ในไตรมาสแรกปีนี้ มาอยู่ที่ 8.6% ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 786.8 ล้านบาท ลดลง 225.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และลดลง 214.2% จากไตรมาสแรก (QoQ) ต่ำกว่าที่ตลาดคาด พร้อมกับฉุดให้ผลดำเนินงานครึ่งแรกปีนี้ อ่อนแอลงเมื่อเทียบกับครึ่งแรกปีก่อน โดยมีผลขาดทุนสุทธิ 98.1 ล้านบาท ลดลง 132.8% ทั้งที่รายได้จากการขายและให้บริการจะเพิ่มขึ้น 31.8% มาอยู่ที่ 65,226.5 ล้านบาท

กระนั้น นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ STA ออกมายืนยันว่า แม้ภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังจะยังมีแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของราคายางในตลาดโลก และภาวะการแข่งขันที่ดุเดือดรุมเร้า แต่พร้อมเดินหน้าพลิกฟื้นผลดำเนินงานให้กลับมามีกำไรในครึ่งปีหลัง ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุน และการขยายตลาดยางและถุงมือยางอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันการเติบโตของรายได้ ทั้งจากยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน และน้ำยางข้น ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น หลังจากมีความชัดเจนเรื่องอัตราภาษีนำเข้าของอเมริกา ประกอบกับยางแท่งอยู่ในรายชื่อสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าจากอเมริกา ทำให้ลูกค้าเริ่มกลับมาสั่งซื้อมากขึ้น รวมถึงการเติบโตของยอดขายยางแท่งมาตรฐาน EUDR เพื่อรองรับการประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรปช่วงปลายปีนี้แล้ว โดยตั้งเป้าปริมาณขายยางทั้งปี 1.41 ล้านตัน และปริมาณขายถุงมือยางที่ 38,500 ล้านชิ้น ใกล้เคียงปีก่อน