SJWD เปิดเกมบุกธุรกิจต่างประเทศเต็มตัว หลังเดินเครื่องร่วมกับ 2 พันธมิตร ขยายตลาดขนส่งเส้นทางไทย-จีน-อาเซียน

นายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ. เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ (SJWD) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดเผยว่า เพื่อขยายโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ ตามเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนกําไรจากธุรกิจในต่างประเทศจากปัจจุบันที่ 16% ขึ้นมาเป็น 30-40% ของกําไรรวม ภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า สร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว บริษัทฯ และพันมิตร 2 ราย ได้แก่ บริษัท รุ่ยหยุน เอชเค อินเตอร์เนชั่นแนล ซัพพลายเชน (Ruiyun) และบริษัท โกลเด้น ไลน์ เซอร์วิสเซส (Golden Line) ในเครือบริษัท สปีด อินเตอร์ ทรานส์สปอร์ต ได้ร่วมลงนามในสัญญาจัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ รุ่ยหยุน อินเตอร์เนชั่นแนล ซัพพลายเชน ประเทศไทย ด้วยทุนจดทะเบียน 140 ล้านบาท เพื่อรุกธุรกิจให้บริการขนส่งข้ามแดนแก่สินค้าควบคุมอุณหภูมิและสินค้าทั่วไป เส้นทางไทย - จีน - อาเซียน ให้กับลูกค้าจากอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ผักสด ผลไม้ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ หรือชิ้นส่วนยานยนต์ โดยได้นำร่องขนส่งทุเรียนจากไทยไปจีน และขนส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากจีนมาไทยแล้ว และมีแผนจะขยายขอบเขตการให้บริการไปยังผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในจีน ที่เข้ามาดำเนินธุรกิจหรือส่งออกสินค้ามาไทย ก่อนรุกขยายบริการขนส่งข้ามแดนจากจีนไปยังประเทศอื่นๆ ในอาเซียนเพิ่มเติม เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและกำลังเติบโต

ดูได้จากการส่งออกทุเรียนจากไทยไปจีนที่เติบโตอย่างโดดเด่น จากที่มีมูลค่าการส่งออกในปี 2561 ราว 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มเป็น 4,320 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2568 นี้ ทำให้ประเมินรายได้ช่วง 5 เดือนหลังของปีนี้ว่า จะสร้างรายได้กว่า 120 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 560 ล้านบาท ในปีหน้า ก่อนเร่งตัวเป็น 830 ล้านบาท ในปี 2572 คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 13.8%

สำหรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของบริษัทร่วมทุนแห่งนี้ ทาง Ruiyun จะถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 49% ส่วน SJWD และ Golden Line ถือหุ้นในสัดส่วน 40% และ 11% ตามลำดับ โดยจะผสานจุดแข็งจากความเชี่ยวชาญของทั้ง 3 บริษัท ได้แก่ ธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นของ SJWD รวม 9 แห่งใน 6 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร, ฉะเชิงเทรา, สมุทรปราการ, สระบุรี, เชียงใหม่ และปทุมธานี พร้อมรองรับสินค้าได้กว่า 100,000 ตัน หรือกว่า 240,000 พาเลท และกำลังก่อสร้างคลังสินค้าห้องเย็นแห่งใหม่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และขอนแก่น ซึ่งจะทำให้สามารถให้บริการขนส่งและจัดเก็บสินค้าควบคุมอุณหภูมิครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทย เข้ากับความเป็นผู้นำในการส่งออกผลไม้สดรายใหญ่ในประเทศไทย ของ Golden Line ที่มีฟลีทรถขนส่งกว่า 700 คัน แบ่งเป็นรถพ่วงตู้แช่แข็งและตู้แห้งกว่า 300 คัน และรถบรรทุกกว่า 400 คัน รวมถึงมีตู้คอนเทนเนอร์แช่แข็งและตู้คอนเทนเนอร์บรรจุสินค้าแห้งอีกกว่า 300 ตู้ และศักยภาพด้านโลจิสติกส์ของ Ruiyun ที่เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ห้องเย็นแบบครบวงจร และมีศูนย์กระจายสินค้าหลัก 33 แห่ง และ ศูนย์กระจายสินค้ารองอีก 50 แห่งในจีน ช่วยกระจายสินค้าได้ครอบคลุม 220 เมือง 1,600 อำเภอ รวมถึงได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Lengyunbao สำหรับผู้ใช้บริการขนส่งสินค้า และผู้ให้บริการรถขนส่งในจีนกว่า 180,000 ราย เพื่อให้บริการขนส่งแบบไม่เต็มรถบรรทุก (Less Truck Load : LTL) และแบบเต็มรถบรรทุก (Full Truck Load :FTL) ช่วยเพิ่มเน็ตเวิร์ตด้านโลจิสติกส์ ยกระดับการให้บริการขนส่งข้ามแดนแก่สินค้าควบคุมอุณหภูมิและสินค้าทั่วไป ให้กับลูกค้าทั้งในไทยและจีนที่ต้องการนำเข้าและส่งออกสินค้า รวมถึงกระจายสินค้าไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ได้เต็มประสิทธิภาพ

ประการสำคัญ ผู้บริหารระดับสูงของทั้ง 3 บริษัท ได้ประกาศเจตนารมย์ที่จะผลักดันการเติบโตทางธุรกิจร่วมกันอย่างยั่งยืน ทั้งนายเจิ้ง รุ่ยเสียง ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่ยหยุน โคลเชน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Ruiyun กับนายชอ ชิง แลม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สปีด อินเตอร์ ทรานส์สปอร์ต ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Golden Line และนายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม SJWD เมื่อเร็วๆ นี้

สำหรับผลดำเนินงานครึ่งแรกปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 644 ล้านบาท ใกล้เคียงครึ่งแรกปีก่อน ซึ่งมีกำไรพิเศษจากการลงทุนใน SWIFT แต่หากตัดรายการพิเศออกไป จะมีกำไรปกติ 644 ล้านบาท เติบโต 90.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 6.2% จากครึ่งแรกปีก่อน มาอยู่ที่ 12,877.8 ล้านบาท หนุนจากการเติบโตทั้งในธุรกิจคลังสินค้าทั่วไป ธุรกิจขนส่งหลากหลายรูปแบบ และธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามแดน ที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นเกินกว่า 20% ทั้งที่ไม่มีการรับรู้รายได้จากธุรกิจ Food Services ในไต้หวันอีกต่อไป เพราะได้ขายเงินลงทุนออกไปแล้ว