TSE ทุ่ม 2.4 พันล้านบาทซื้อโรงไฟฟ้าขยะชุมชน PACE 1 ด้วยสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 8 MW

ดร. แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เข้าซื้อกิจการบริษัท พาวเวอร์ เอซ วัน (PACE 1) ซึ่งทำธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะชุมชน ด้วยสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับองค์การบริหารส่วนตำบลคอรุม จังหวัดอุตรดิตถ์ กำลังการผลิต 8.0 เมกะวัตต์ เป็นระยะเวลา 25 ปี ผ่านบริษัทย่อย ไทย คอมมูนิตี้ เอ็นเนอร์ยี่ (TCE) คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 2.4 พันล้านบาท คาดว่าธุรกรรมจะแล้วเสร็จในไตรมาสสุดท้ายปีนี้

การเข้าลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯ ในการขยายพอร์ตธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะชุมชนเพื่อต่อยอดธุรกิจสู่พลังงานหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ และนับเป็นหมุดหมายสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาด สนับสนุนเป้าหมาย Net Zero Greenhouse Gas Emission ของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยนอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะจาก จ.อุตรดิตถ์ และบางพื้นที่ของ จ.สุโขทัยแล้ว ยังช่วยลดการฝังกลบขยะ ลดการปล่อยก๊าซมีเทน พร้อมสร้างการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯ มีการดำเนินโครงการโรงฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งหมด 62 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตเสนอขาย 382.68 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการที่เดินเครื่องจำหน่ายไฟฟ้าแล้ว 34 โครงการ กำลังการผลิตรวม 153.8 เมกะวัตต์ และกำลังอยู่ในระหว่างพัฒนาโครงการที่ผ่านการคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ทั้งเฟส 1 และเฟส 2 รวม 28 โครงการ กำลังการผลิต 229.06 เมกะวัตต์ ทยอยเดินเครื่องเพื่อจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2570-73 สนับสนุนผลดำเนินงานให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน และเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ บริษัทฯ ยังได้แตกไลน์สู่ธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม ตามเมกะเทรนด์ของโลก เพื่อเพิ่มอัตรากำไรให้สูงขึ้น สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว

สำหรับผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 14 ล้านบาท ลดลง 84% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) สาเหตุจากในไตรมาส 2 ปีก่อน บริษัทฯ มีกำไรพิเศษจากการจำหน่ายเงินลงทุนในกิจการร่วมค้า แต่หากตัดรายการนี้ออกไป กำไรจากการดำเนินงานจะทำได้ใกล้เคียงกัน ขานรับความสำเร็จในการบริหารค่าใช้จ่ายที่รัดกุม และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มปริมาณการผลิตไฟฟ้า ส่งผลให้รายได้รวมเพิ่มขึ้น 6% YoY มาอยู่ที่ 340.9 ล้านบาท

ขณะที่ผลดำเนินงานครึ่งปีแรก กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 686.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากครึ่งแรกปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 77.7 ล้านบาท ลดลง 58% จากครึ่งแรกปีก่อน แต่หากตัดรายการพิเศษออกไป จะมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 10% มาอยู่ที่ 171 ล้านบาท