2021 จำนวนผู้เข้าชม |
ศ. ดร. นพ. เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บางกอกเชน ฮอลปิทอล (BCH) เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจในครึ่งหลังปี 2568 ว่า จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก หนุนจากการเข้าสู่ไฮซีซั่นของธุรกิจ และการเติบโตของรายได้จากผู้ป่วยทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มผู้ป่วยเงินสดชาวไทย และต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลาง ไม่รวมคูเวต กับกลุ่มประกันสังคม ที่สามารถขยายฐานผู้ประกันตนได้เพิ่ม อีกทั้งมีการรับประกันการจ่ายสำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคต้นทุนสูง (RW) ในอัตรา 12,000 บาท ตลอดปี รวมถึงการยกระดับการให้บริการตามเครือข่ายสาขาต่างๆ หลังการรีโนเวท ควบคู่ไปกับเพิ่มบริการใหม่ๆ และผลขาดทุนที่ลดลงของโรงพยาบาลเปิดใหม่ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปราจีนบุรี โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อรัญประเทศ และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ ผลักดันให้รายได้ทั้งปีเติบโตในกรอบ 5–10% ถึงแม้เศรษฐกิจโดยรวมจะมีปัจจัยเสี่ยงรุมเร้าหลายประการก็ตาม
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนใหม่จากการที่รัฐบาลคูเวตได้เชิญบริษัทฯ และโรงพยาบาลไทยอีก 7 แห่งไปเยือนคูเวต ช่วงระหว่างวันที่ 16–18 กันยายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการส่งต่อผู้ป่วย กระบวนการชำระเงิน และความร่วมมือทางการแพทย์ ครั้งใหม่ หลังจากหยุดไปในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ช่วยเพิ่มโอกาสให้โรงพยาบาลเวิลด์ เมดิคอล สามารถขยายฐานรายได้ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยหากอิงตัวเลขเดิมก่อนรัฐบาลคูเวตหยุดส่งต่อผู้ป่วย การส่งต่อผู้ป่วยคูเวตจะเพิ่มรายได้ให้บริษัทฯ เพิ่มขึ้น 720 ล้านบาท คิดเป็น 6.5% ของรายได้รวม กับการที่สำนักงานประกันสังคม มีแผนจะหักเงินสมทบผู้ประกันตนเพิ่มขึ้น ตามสูตรใหม่ ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเห็นอัตราค่ารักษาผู้ป่วยโรคต้นทุนสูง (RW) ในปีหน้า จะไม่ปรับลงมาต่ำกว่าอัตรา 12,000 บาท ในปีนี้
และ 2 ปัจจัยหนุนใหม่นี้ ทำให้นักวิเคราะห์ อาทิ กรุงศรี (KSS) บัวหลวง (BLS) เคจีไอ (KGI) เอเซีย พลัส (ASPS) เริ่มปรับคำแนะนำเป็น ซื้อ จากศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่น และราคาหุ้นที่ซื้อขายถูกเกินไป
สำหรับผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปีนี้ BCH มีกำไรสุทธิ 388 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ตามรายได้ที่เติบโต 6% YoY และ 4% QoQ มาอยู่ที่ 3,020 ล้านบาท หนุนจากการเติบโตของรายได้กลุ่มผู้ป่วยประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นทะลุ 1 ล้านคน และการมีรายการพิเศษจากโครงการประกันสังคม ช่วยผลักดันให้ผลดำเนินงานครึ่งแรกปีนี้เติบโตดีกว่าครึ่งแรกปีก่อนตามไปด้วย โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 19% มาอยู่ที่ 710 ล้านบาท ตามรายได้จากการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้น 4% เป็น 5,923 ล้านบาท พร้อมกับประกาศจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท กำหนดจ่ายเงินวันที่ 12 กันยายนนี้