MASTER มั่นใจ ผลงานไตรมาส 3 โดดเด่น หลังลูกค้าต่างชาติฟื้นตัว ขณะที่บริษัทร่วมทุนพร้อม turnaround

1503 จำนวนผู้เข้าชม  | 

MASTER มั่นใจ ผลงานไตรมาส 3 โดดเด่น หลังลูกค้าต่างชาติฟื้นตัว ขณะที่บริษัทร่วมทุนพร้อม turnaround




นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. มาสเตอร์ สไตล์ (MASTER) หนึ่งในผู้นำด้านศัลยกรรมความงามในระดับภูมิภาค (Regional Company) เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจครึ่งหลังปี 2568 ว่า มีทิศทางดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเข้าสู่ไฮซีซั่นของธุรกิจ และการมีวันหยุดยาวช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าชาวไทยเข้ารับบริการด้านศัลยกรรมความงามเพิ่มขึ้น ขณะที่ลูกค้าชาวอินโดนีเซียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง หนุนจากการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มระดับกลางในจังหวัดสุราบายา และบาหลี หลังจากประสบความสำเร็จในการเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าระดับบนในกรุงจากาตาร์ไปก่อนหน้านี้ และเริ่มเห็นการฟื้นตัวของลูกค้าต่างชาติทุกกลุ่ม รวมถึงจีน จะมียกเว้นเพียงกัมพูชา (มีสัดส่วนรายได้ราว 3%) ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาชายแดน ขณะเดียวกัน บริษัทฯ พร้อมรุกขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การบริหารจัดการต้นทุนในทุกมิติ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงวางรากฐานที่มั่นคง เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว พร้อมรองรับการขยายตัวในอนาคตทั้งในเชิงบริการและคุณภาพการดำเนินงาน

สำหรับการรับรู้ผลขาดทุนจากบริษัทร่วมที่เกิดในไตรมาส 2 น่าจะเห็นการฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 3 เพราะการขยายสาขา และการเปิดดำเนินการโรงพยาบาลเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งเคอาร์เอ็ม ขอนแก่น ทำให้จะมีค่าใช้จ่ายมาก่อนรายได้ แต่จะเริ่มเห็นการสร้างรายได้สูงขึ้น ช่วยลดผลขาดทุนในบางบริษัทลงมา และน่าจะเห็นบางรายพลิกผลขาดทุนกลับมาเป็นกำไร (Turnaround) โดยบริษัทฯ ประเมินว่า จะสามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรในไตรมาส 3 ราว 8 ล้านบาท ก่อนเพิ่มทั้งปีเป็น 30 ล้านบาท

ขณะที่ผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปีนี้ MASTER มีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท ลดลง 38% จากไตรมาส 2 ปีก่อน (YoY) และลดลง 5% จากไตรมาสแรกปีนี้ (QoQ) โดยการลดลง YoY มีสาเหตุจากรายได้ที่ลดลง สวนทางค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขื้น โดยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายการตลาด ที่เกิดจากการปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับการออกกฎระเบียบใหม่ของภาครัฐเพื่อดึงดูดลูกค้า ควบคู่ไปกับการกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าให้เข้าใช้บริการมากขึ้นในครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ รวมถึงมีการปรับขึ้นอัตราค่าตอบแทนแพทย์ตามประสบการณ์และจำนวนเคสในการรักษา





ส่วนรายได้ที่ลดลง QoQ เกิดจากการให้บริการศัลยกรรมที่ชะลอตัว 3% มาอยู่ที่ 495 ล้านบาท หลักๆ จากลูกค้าคนไทยที่มีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่การรับรู้ส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทร่วม พลิกจากที่มีกำไร 4 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปีก่อน มาเป็นขาดทุน 1 ล้านบาท ทั้งในกรณีของบริษัท วี เอ็กคลูซีฟ กรุ๊ป (ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการเร่งขยายสาขาใหม่) บริษัท กรวินโฮลดิ้ง ไทยแลนด์ (ขาดทุนจากการเปิดดำเนินการโรงพยาบาลเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งเคอาร์เอ็ม ขอนแก่น) และบริษัท คิน คอร์ปอเรชั่น (ผลดำเนินงานลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ) กดดันให้อัตรากำไรสุทธิอ่อนตัวลง จาก 16.7% มาอยู่ที่ 10.7% 

อย่างไรก็ตาม การหวนกลับใช้บริการของลูกค้าอินโดนีเซีย หลังสิ้นสุดเดือนรอมฎอน ส่งผลให้ฐานลูกค้าต่างประเทศมีการเติบโต 25% จึงทำให้รายได้จากการให้บริการศัลยกรรมปรับตัวดีขึ้น 4% QoQ หนุนให้อัตรากำไรสุทธิลดลงเพียงเล็กน้อย จาก 11.8% เป็น 10.7% ส่งผลต่อเนี่องให้ผลดำเนินงานครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิลดลง 43% จากครึ่งแรกปีก่อน มาที่ 108 ล้านบาท ทั้งที่รายได้จากการให้บริการศัลยกรรมจะประคองตัวใกล้เคียงกัน ที่ 969 ล้านบาท





Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้