GFC มั่นใจ ผลงานครึ่งหลังปี 2568 ฟื้นตัวดีขึ้น ตามแผนสร้างการเติบโตเชิงลึก และเชิงกว้าง

นพ. ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ (ซ้าย) รองประธานกรรมการ บมจ. เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ (GFC) ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยาก เปิดเผยแผนดำเนินงานครึ่งหล้งปี 2568 ว่า พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตแบบสองมิติ (Dual-Track Growth) ทั้งเชิงลึก (In-depth Growth) และเชิงกว้าง (Outward Growth) โดยการเติบโตเชิงลึก จะมาจากตลาดภายในประเทศ ที่ต้องแข่งขันกันด้วยคุณภาพ เทคโนโลยี และการสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่า เพื่อตอบสนองต่อผู้บริโภคที่มีข้อมูลมากขึ้น และคาดหวังสูง ท่ามกลางแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจ ส่วนการเติบโตเชิงกว้างจะมาตลาดต่างประเทศ ผ่านการขยายเครือข่ายความร่วมมือกับตัวแทนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มผู้ที่ต้องการรับคำปรึกษาและรักษาภาวะมีบุตรยากในหลายประเทศ ควบคู่ไปกับการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่นิยมในประเทศเป้าหมาย เพื่อเจาะตลาด รวมทั้งมองหาโอกาสใหม่ๆ ในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว  

สำหรับกลยุทธ์ในการสร้างความสำเร็จ บริษัทฯ พร้อมมุ่งเน้นเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จ (Success Rate) ในการรักษาการมีบุตรยากให้สูงขึ้น จากปัจจุบันที่มีอัตราความสำเร็จ 74% ควบคู่ไปกับการใช้กลยุทธ์การตลาดขยายฐานผู้ที่ต้องการรับคำปรึกษาและรักษาภาวะมีบุตรยากอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเริ่มเปิดให้บริการให้คำปรึกษากับคู่สมรสตามกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งหากในอนาคต กฎหมายดังกล่าวมีความชัดเจน จะเป็นอีกปัจจัยที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโต ตลอดจนมีการจัดกิจกรรม Open House เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้า ขณะเดียวกัน เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม บริษัทฯ เตรียมเปิดให้เช่าพื้นที่ว่างในสาขาพระราม 9 อินเตอร์เนชั่นแนล (GFC Rama 9 International) เพื่อให้มีรายได้ประจำเข้ามาช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวช้า และขยายฐานรายได้ให้มีความหลากหลายขึ้น ช่ายให้รายได้ปีนี้เติบโตใกล้เคียงกับปีก่อน

สำหรับผลดำเนินงานครึ่งแรกปีนี้ GFC มีกำไรสุทธิ 12.8 ล้านบาท ลดลง 72.3% จากครึ่งแรกปีก่อน ถูกกดดันจากการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของต้นทุนและค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าเสื่อมราคาของอาคารและเครื่องมือแพทย์ กับค่าใช้จ่ายพนักงานที่เกิดจากการเปิดดำเนินการสาขาพระราม 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ในไตรมาส 2 ทำให้ต้นทุนคงที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่รายได้ยังเติบโตไม่ทัน กดดันให้อัตรากำไรสุทธิปรับลดลงจาก 24.16% มาอยู่ที่ 8.55% ทั้งที่รายได้จากการให้บริการจะลดลงเล็กน้อย 5.7% มาอยูที่ 180.1 ล้านบาท จากจำนวนผู้มีบุตรยากที่เข้ามาทำการรักษาลดลง สอดคล้องกับจำนวนรอบของการเก็บไข่ที่ลดลง 38 รอบ แต่ถูกชดเชยด้วยการปรับราคาขายโปรแกรมรักษาภาวะผู้มีบุตรยาก ในอัตรา 5% อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยจ่ายระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท กำหนดจ่ายในวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา