SKIN เคาะราคา IPO 1.20 บาท เปิดจอง 15-17 ก.ย.นี้  ก่อนเข้าซื้อขายวันแรกในตลาด mai 24 ก.ย.

1821 จำนวนผู้เข้าชม  | 

SKIN เคาะราคา IPO 1.20 บาท เปิดจอง 15-17 ก.ย.นี้  ก่อนเข้าซื้อขายวันแรกในตลาด mai 24 ก.ย.


 


ดร. สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. สกิน ลาบอราทอรี่ (SKIN) เปิดเผยว่า เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 44 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 30.55% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมด ที่ราคาหุ้นละ 1.20 บาท จากราคาพาร์ หุ้นละ 0.50 บาท ระหว่างวันที่ 15 - 17 กันยายนนี้ ผ่าน บมจ. หลักทรัพย์ ฟิลลิป ประเทศไทย (PST) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และผู้ร่วมจัดจำหน่าย อีก 4 ราย ประกอบด้วย บมจ. หลักทรัพย์ บียอนด์ (BYD) บมจ. หลักทรัพย์ ไอร่า (AIRA) บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย CGSI) และบริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ (LIB) คาดว่าจะพร้อมเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) วันที่ 24 กันยายนที่จะถึงนี้

ด้านนายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ PST ชี้แจงว่า การตั้งราคา IPO ที่ 1.20 บาท ใช้วิธีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) โดยพิจารณาจากกำไรสุทธิย้อนหลัง 4 ไตรมาสล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ซึ่งอยู่ที่ 12 เท่า ถือได้ว่าสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน รวมถึงโอกาสการเติบโตที่สูงจากกระแสตลาดความงามในประเทศที่กำลังเป็นที่นิยม รวมถึงความพร้อมในการขยายธุรกิจและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในอนาคต

ส่วนนายชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SKIN ยืนยันว่า บริษัทฯ มีแผนนำเงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO มาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจ แบ่งเป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิม รวมถึงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเครื่องสำอาง เวชสำอางบำรุงผิว และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ทั้งเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้สูงขึ้น และเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบความต้องการของตลาดได้อย่างครอบคลุม

อีกส่วนหนึ่งจะนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์สกินซิสต้า (Skinsista) และเดอร์มี่ (Dermie) รองรับการเปิดตัวสินค้าใหม่ กลุ่มเครื่องสำอางผสมบำรุงผิว 11 รายการ ในช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ ควบคู่ไปกับเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ ผ่านช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ทั้ง  Convenience  Store และ  Specialty Store อย่าง Watsons, CJ MORE, NINE BEAUTY, 7-11, Beautrium, Konvy และช่องทาง Online ทุกแพลตฟอร์ม รวมถึงเริ่มเจาะตลาดภูมิภาคอาเซียน สร้างการเติบโตของรายได้อย่างก้าวกระโดด ใน 3 ปีนี้ พร้อมต่อยอดการเติบโตอย่างยั่งยืน ในระยะยาว






ขณะที่นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APM ที่ปรึกษาทางการเงิน ปิดท้ายว่า จากการทำงานร่วมกับผู้บริหาร SKIN มาตลอด 4 ปี ได้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค วิจัยและพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ สามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด เห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง จนทำให้ผลิตภัณฑ์กันแดด และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สามารถครองความเป็น product champion มาโดยตลอด ทั้งที่ไม่มีการออกสินค้าใหม่มาก เพราะบริษัทฯ พยายามแก้ pain point จากสัญญาที่ถูกจำกัดเงื่อนไขการขาย ตาม Exclusive Contract ที่เคยทำไว้ในอดีต จนประสบความสำเร็จในปีนี้ เห็นได้จากสัดส่วนการขายขาดที่สูงขึ้นเป็นลำดับ ช่วยให้สามารถรับรู้รายได้ได้เร็วขึ้น เพิ่มความเข้มแข็งของกระแสเงินสด

ดังนั้น การใช้เงินทุนที่ได้จากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เพื่อทำการตลาดเชิงรุก ตามแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ปีนี้ราว 20 SKUs ทำให้มั่นใจได้ว่า จะเห็นการเติบโตของยอดขายแบบก้าวกระโดด ผลักดันให้รายได้เติบโต 2 เท่าตัว ในปี 2571 ตามแผน 3 ปีที่วางไว้ สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นตามมา   




 

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้