VRANDA แย้ม ผลงานครึ่งปีหลังโตเด่น หลังนักท่องเที่ยวเริ่มฟื้นในเดือน ส.ค.

นายภวัฒก์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. วีรันดา รีสอร์ท (VRANDA) หนึ่งในผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจไลฟ์สไตล์ เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจครึ่งหลังปี 2568 ว่า มีทิศทางที่สดใส โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม ที่สร้างรายได้หลักกว่า 90% ได้อานิสงค์จากตลาดท่องเที่ยวไทยในไตรมาส 3 พลิกฟื้นจากจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 ได้อย่างชัดเจน ดูได้จากธุรกิจโรงแรมในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาสามารถทำรายได้ได้สูงขึ้น โดยโรงแรมวีรันดา คอลเลกชัน สมุย-ร็อคกี้ รีสอร์ท (Veranda Collection Samui-Rocky's Resort) มีอัตราการเข้าพักสูงถึง 90% จากราคาเฉลี่ยต่อคืน 6,690 บาท ขณะที่โรงแรมวีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น (Veranda Resort Phuket, Autograph Collection) มีอัตราเข้าพักถึง 67% ในราคาเฉลี่ยต่อคืน 5,865 บาท อีกทั้งยังเป็นโรงแรมใหม่ในภูเก็ตที่ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มโรงแรม Luxury 5 ดาว ใน จ.ภูเก็ต โดยได้คะแนนเต็ม 5.0 จาก Tripadvisor แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการเพิ่มห้องพักในจุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของประเทศ ช่วยสนับสนุนให้ผลดำเนินงานดีขึ้น ถึงแม้โรงแรมในพื้นที่อื่นๆ จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเล็กน้อยก็ตาม

ทำให้เชื่อมั่นว่า เมื่อถึงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม จะเห็นการเติบโตของรายได้จากธุรกิจโรงแรมเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้าใหม่ จากประเทศยุโรปและตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการทำตลาดนักท่องเที่ยวไทย ซึ่งได้ปัจจัยบวกจากโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง รวมถึงจุดแข็งในการบริหารจัดการที่ดี การให้ความสำคัญกับคุณภาพการให้บริการที่สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้า และการเปิดโรงแรมใหม่ในภูเก็ต รวมถึงกลยุทธ์การดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายสูง ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อผลักดันรายได้การท่องเที่ยวให้ถึงเป้าหมายปีนี้ที่ 3 ล้านล้านบาท อีกทั้งยังจะรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์เพื่อขายอีกราว 300 ล้านบาท จากยอดขายในมือ (Backlog) รวม 756 ล้านบาท

สำหรับผลดำเนินงานครึ่งแรกปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% จากครึ่งแรกปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้จากธุรกิจโรงแรมที่เติบโต 17% มาอยู่ที่ 703 ล้านบาท แม้จะถูกบั่นทอนจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่รายได้หดตัว 88% เหลือ 15 ล้านบาท ฉุดให้รายได้รวมลดลง 4% มาอยู่ที่ 741 ล้านบาท