1351 จำนวนผู้เข้าชม |
นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจช่วงครึ่งหลังปี 2568 นี้ ว่า จะเห็นการฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้นกว่าครึ่งปีแรก โดยธุรกิจน้ำ จะเห็นการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้น ทั้งจากความต้องการใช้น้ำจากกลุ่มลูกค้าปิโตรเคมีที่เติบโตโดดเด่นขึ้น และการได้สัญญาซื้อขายน้ำกับลูกค้ากลุ่ม Data center ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการใช้น้ำสูง เพิ่มเติมอีก ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการขยายกำลังการผลิตน้ำและระบบบำบัดน้ำเสียภายในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้ง 2 กลุ่มนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว ขณะที่ธุรกิจน้ำในเวียดนามยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ขับเคลื่อนจากโครงการ Doung River ที่มีความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ายอดขายน้ำรวมทั้งปีที่ 166 ล้านลูกบาศก์เมตร ใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากยอดขายน้ำให้กับลูกค้ากลุ่ม Data center จะเริ่มทยอยรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
ส่วนธุรกิจขายไฟฟ้า คาดว่าจะมีโครงการ Solar Rooftop เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มอีกกว่า 100 เมกะวัตต์ ในช่วงครึ่งปีหลัง ผลักดันให้สัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมเพิ่มเป็น 1,185 เมกะวัตต์ หลังจากครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจากโรงไฟฟ้าทุกประเภทรวม 991 เมกะวัตต์ ในจำนวนนี้เป็นพลังงานหมุนเวียน 463 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการโซลาร์ที่เดินเครื่องจำหน่ายเชิงพาณิชย์แล้ว 156 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างพัฒนาอีก 285 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังมีการลงนามความร่วมมือกับลูกค้ากลุ่ม Data Center เพื่อพัฒนาโครงการ Direct PPA ขนาด 120 เมกะวัตต์
ขณะที่นายอัครินทร์ ประเทืองสิทธิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏฺบัติการ WHAUP เสริมว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้ายกระดับเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเสริมสร้างความยั่งยืนในการพัฒนาธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การนำนวัตกรรม AI มาใช้พัฒนา Smart Water Solutions, Solar Anomaly และ Solar Forecasting หรือการนำแพลตฟอร์ม Peer-to-Peer Energy Trading มาใช้ ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มลูกค้าสนใจเข้าร่วมแล้วกว่า 30 ราย เตรียมทดสอบการซื้อขายจริงผ่านโครงการ Sandbox ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งหากประสบความสำเร็จ จะเป็นการเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ในการซื้อขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ รวมถึงต่อยอดไปสู่ธุรกิจคาร์บอนเครดิตในอนาคต