2051 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ประเทศไทย (DELTA) เปิดเผยผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 7.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และเพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ดีกว่าตลาดคาด ผลจากยอดขายและกำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาด ช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้น 26% QoQ และ 27% YoY หลักๆ มาจากค่าสิทธิจ่ายที่เพิ่มขึ้นตามการผลิตและการขายสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีจากสิทธิบัตรของบริษัทแม่ในไต้หวัน ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมีกำไรพิเศษ 1 พันล้านบาท (จากค่าชดเชยของลูกหนี้ในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ผิดสัญญาทางการค้า และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 165 ล้านบาท แม้จะถูกบั่นทอนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ของเครื่องจักรในสโลวาเกียที่โครงการบางส่วนถูกยกเลิกไป จำนวน 115 ล้านบาท) แต่หากตัดรายการพิเศษออกไป จะมีกำไรปกติ 6.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% QoQ และ 7% YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดเช่นกัน
โดยยอดขายเติบโตเกือบทุกผลิตภัณฑ์ นำโดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ (สัดส่วนรายได้ 65%) และผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐาน (สัดส่วนรายได้ 18%) ที่เติบโตอย่างโดดเด่น ตามความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI และดาต้าเซ็นเตอร์ ที่เติบโตแข็งแกร่ง ผลักดันให้รายได้จากการขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 20% QoQ และ 23% YoY มาอยู่ที่ 5.3 หมื่นล้านบาท (แต่จะเพิ่มสูงถึง 24% QoQ และ 36% YoY หากอิงเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ทำได้ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) แม้ยอดขายผลิตภัณฑ์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะยังชะลอตัวต่อเนื่อง โดยลดลงถึง 20% QoQ และ 26% YoY จากผลกระทบของการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของอเมริกา แต่เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้เพียง 14% จึงไม่กระทบต่อรายได้จากการขายมาก และเนื่องจากผลิตภัณฑ์กลุ่ม AI power และดาต้าเซ็นเตอร์ มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง จึงทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มจาก 27.6% ในไตรมาส 3 ปีก่อน และ 25% ในไตรมาส 2 ขึ้นมาอยู่ที่ 28.3%
พร้อมกันนี้ ผู้บริหาร DELTA ได้ออกมาคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ด้วยว่า น่าจะเห็นรายได้จากการขายในสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เติบโตแข็งแกร่ง ราว 20% QoQ และ 65% YoY ได้แรงหนุนจากรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI และ Data Center ที่เร่งตัวเพิ่มขึ้น โดยมีการเร่งคำสั่งซื้อจากลูกค้าค่อนข้างมาก จนต้องส่งสินค้าทางอากาศ โดยลูกค้าเต็มใจรับผิดชอบค่าขนส่งทั้งหมด ผลักดันให้อัตรากำไรขั้นต้นในสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับเพิ่มจากเป้าเดิมที่ 25–26% ขึ้นมาเป็น 27–28% ประการสำคัญ รายได้จากการขายในสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ น่าจะเติบโตโดดเด่นไปจนถึงไตรมาสแรกปี 2569 เป็นอย่างน้อย ตามคำสั่งซื้อเร่งด่วนจากลูกค้ารายใหญ่ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเป้าหมายปีหน้า ในเบื้องต้น ผู้บริหารชี้ว่ารายได้จากการขายในสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ น่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% หนุนจากผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับ AI และ Data Center ที่คาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 40-50% ทั้งจากผลิตภัณฑ์เดิม และเริ่มรับรู้รายได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่ม AI คือ Liquid Cooling Solution ที่บริษัทแม่ในไต้หวันเป็นผู้ผลิตให้อยู่ ตั้งแต่ไตรมาสแรกเป็นต้นไป ก่อนจะเริ่มผลิตในไทยตามมา ผ่านการย้ายไลน์การผลิตผลิตภัณฑ์กลุ่ม EV และขยายไลน์การผลิตในโรงงานบางปูเพิ่มเติมตลอดครึ่งปีแรก
โมเมนตัมการเติบโตของยอดขายผลิตภัณฑ์กลุ่มเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รับกระแส AI และ Data Center ที่ขยายตัวอย่างโดดเด่น ทำให้นักวิเคราะห์ทุกสำนักปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ DELTA ทั้งในปีนี้ และปีหน้าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีการปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2569 ขึ้นตามมา แต่แนะนำเพียงเก็งกำไร เพราะราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที P/E สูงมาก และยังสูงกว่าราคาเฉลี่ยที่ 182.50 บาท ค่อนข้างมาก