1936 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการ บมจ. บ้านปู BANPU) มีมติเห็นชอบในการปรับโครงสร้างธุรกิจภายในกลุ่ม ด้วยการควบรวมกิจการระหว่าง BANPU และ บมจ. บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) เข้าด้วยกันภายใต้บริษัทใหม่บริษัทเดียว (NewCo) โดยให้เหตุผลว่า จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจพลังงานครบวงจรให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทั้งการวางกลยุทธ์ที่ชัดเจนเป็นหนึ่งเดียว ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ (เหมืองถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ) ไปจนถึงปลายน้ำ (พลังงานหมุนเวียน โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน) ภายใต้ 4 เสาหลัก (Four Core Pillars) ทำให้การดำเนินธุรกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น สามารถลดต้นทุนดำเนินงาน ลดความซับซ้อนจากการถือหุ้นไขว้ระหว่าง 2 องค์กร ช่วยปลดล็อกมูลค่าของกลุ่มพลังงานไฟฟ้าที่กระจัดกระจายอยู่ในหลายบริษัท และเพิ่มความเข้มแข็งทางการเงิน เพื่อเตรียมขยายโอกาสไปในธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจ Data Center ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System - ESS) หรือธุรกิจพลังงานหมุนเวียนเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มสัดส่วนกำไรจากธุรกิจที่ไม่ใช่ถ่านหิน (Non-coal) ให้สูงขึ้น พร้อมสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับผู้ถือหุ้น และนักลงทุน ได้อย่างยั่งยืน
สำหรับแผนปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้ จะประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ส่วนแรก เป็นการปรับโครงสร้างเงินลงทุนระหว่าง BPP และ BKV ในบริษัท BKV-BPP Power เพื่อปรับโครงสร้างการถือครองสินทรัพย์โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I&II ในอเมริกา ให้สอดคล้องกับโครงสร้างหลังควบรวมกิจการ โดย BKV จะเข้าซื้อหุ้น 25% จาก BPP ด้วยมูลค่ารวม 376 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.2 หมื่นล้านบาท) แบ่งเป็นการจ่ายเงินสดครึ่งหนึ่ง และหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BKV ที่ราคาหุ้นละ 21.66 ดอลลาร์สหรัฐฯ อีกครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้ BKV มีสัดส่วนการถือหุ้นใน BKV-BPP Power เพิ่มเป็น 75% ขณะที่ BPP ถือหุ้น 25% ซึ่งธุรกรรมนี้น่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกปี 2569 ส่งผลให้ BPP มีกระแสเงินสดรองรับการลงทุนในอนาคต พร้อมทั้งปลดล๊อคมูลค่าหุ้นทั้ง BANPU และ BPP ได้ในระดับหนึ่ง

ส่วนที่สอง เป็นการควบรวมกิจการระหว่าง BANPU และ BPP โดย BANPU จะซื้อหุ้น BPP จากผู้ถือหุ้นทั่วไป จำนวน 650.53 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 21.34% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ที่ราคาหุ้นละ 13 บาท โดยกำหนดระยะเวลาในการซื้อหุ้นตั้งแต่วันที่ 1 – 23 ธันวาคมนี้ นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้น BANPU และ BPP ที่ยังไม่แน่ใจ หรือไม่เห็นด้วยกับการควบรวมกิจการ สามารถขายหุ้นคืนได้หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 มกราคม ปีหน้าแล้วเสร็จลงไป โดยมอบหมายให้บริษัทย่อย บ้านปู มินเนอรัล (BMC) เป็นผู้ทำคำเสนอซื้อ และกำหนดราคารับซื้ออิงราคาปิดหุ้น BPP หรือ BANPU ในวันที่ 28 มกราคม คาดว่าธุรกรรมการซื้อหุ้นส่วนนี้จะเกิดภายในไตรมาส 2 ปี 2569
ต่อจากนั้น จะเป็นการแลกหุ้นระหว่าง BANPU และ BPP ในบริษัทใหม่ (NewCo) โดยกำหนดอัตราการแลกหุ้น (Swap Ratio) ของ BPP ที่ 1 หุ้น ต่อ 0.74615 หุ้น NewCo และ BANPU ที่ 1 หุ้น ต่อ 0.35575 หุ้น NewCo โดยวางแผนนำหุ้น NewCo เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใต้ชื่อ BANPU เหมือนเดิม ภายในไตรมาสสุดท้ายปี 2569 หลังจากขั้นตอนการโอนทรัพย์สิน หนี้สิน สิทธิ หน้าที่ทั้งหมดให้กับ NewCo และยุติการเป็นนิติบุคคลของทั้ง BPP และ BANPU แล้วเสร็จตามกระบวนการ โดย NewCo จะมีทุนจดทะเบียนใหม่ 40,496 ล้านบาท จากหุ้นสามัญ 4,049.6 ล้านหุ้น ที่ราคาพาร์หุ้นละ 10 บาท
