KISS เตรียมบุกตลาดต่างประเทศปั้นผลงานปี 2569 โตแกร่ง หลังวางฐานความสำเร็จตลาดในประเทศแน่น ตลอดปี 2568

บมจ. โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล (KISS) แจ้งผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 61.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 166.4% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ตามรายได้จากการขายและให้บริการที่เพิ่มขึ้น 9.6% YoY และ 23.2% QoQ มาอยู่ที่ 329.7 ล้านบาท หนุนจากยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skincare) ที่สามารถครองความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทั้งผลิตภัณฑ์เดิม Rojukiss Face-Eye-Neck, Rojukiss Reju PDRN, Rojukiss Phyto-Retinol และผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่าง Serum Treatment Pad, Reju PDRN Essence, Micellar Water, Sleeping masks และ 10x Treatment Mask สูตรใหม่ Vitamin B12 และ Caffeine Complex ส่งผลต่อเนื่องให้รายได้จากการขายและให้บริการเพิ่มขึ้น 2.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็น 842.2 ล้านบาท แต่เนื่องจากบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและโฆษณาที่สูงขึ้น ทั้งเพื่อกระตุ้นยอดขาย และเปิดตัวสินค้าใหม่ จึงกดดันให้กำไรสุทธิอ่อนตัวเล็กน้อย 3.3% มาอยู่ที่ 121.2 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม นายคอร์ราโด จาควินโต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KISS พอใจกับการที่บริษัทฯ สามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากช่องทาง Modern Trade ร้านค้าแบบดั้งเดิม และการส่งออก ตามแผนงานที่วางไว้ รวมถึงการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 17.9% เช่นเดียวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์ ที่มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 5.3% ทำให้มั่นใจได้ว่า จะสามารถรักษาการเติบโตของยอดขายในระดับนี้ไปจนถึงสิ้นปี ส่งผลบวกให้กำไรสุทธิทั้งปีเติบโตจากปีก่อนในกรอบ 7-12% ก่อนเห็นการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิเป็นเลข 2 หลัก ในปี 2569 จากการต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์ Rojukiss ในตลาดภายในประเทศ พร้อมกับเร่งบริหารจัดการระดับสินค้าคงคลังในร้านค้าปลีกอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดสินค้าที่หมุนเวียนช้าออกจากคลังสินค้า และรับมือกับกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัว ก่อนเดินหน้าบุกตลาดต่างประเทศเต็มตัว ประเดิมด้วยตลาด สปป.ลาว และเวียดนาม ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายปีนี้เป็นต้นไป โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศปี 2569 ให้ได้ 10% และเพิ่มเป็น 20% ภายในปี 2573 สอดรับกับแผนสร้างรายได้แตะ 4,000 ล้านบาทที่ตั้งเอาไว้

ในปี 2569 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นบริหารจัดการลดสินค้ากับร้านค้าปลีก การตัดจำหน่ายสินค้าที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และขยายส่วนแบ่งการตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นนี้ บริษัทฯ ได้วางกรอบการเติบโตที่มั่นคงสำหรับปี 2569 โดยตั้งเป้าที่จะรักษาโมเมนตัมการเติบโตในช่วงที่เหลือของปี 2568 และเร่งการเติบโตในปี 2569 จากความแข็งแกร่งของแบรนด์ โครงสร้างต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม