UAC เดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ควบคุมต้นทุน มุ่งรักษากระแสเงินสด ปูทางเติบโตยั่งยืน

บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC) รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2568 ขาดทุนสุทธิ 16.28 ล้านบาท ดีขึ้น 33.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 24.56 ล้านบาท สาเหตุจากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในธุรกิจ Manufacturing ส่งผลให้รายได้จากกลุ่ม Petroleum และ Energy เพิ่มขึ้น ทั้งที่รายได้จากธุรกิจหลักกลุ่ม Trading จะได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีของผู้นำอเมริกาค่อนข้างมาก ฉุดให้รายได้จากการดำเนินงานปรับลดลงราว 57.9% มาอยู่ที่ 299.70 ล้านบาท และกดดันให้ผลดำเนินงานงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 53.11 ล้านบาท ลดลง 20.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามรายได้จากการดำเนินงานที่อ่อนตัว 24.2% มาอยู่ที่ 1,247.41 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังสามารถบริหารจัดการกระแสเงินสดได้ดีต่อเนื่อง ด้วยการรักษากำไรที่เป็นเงินสด (EBITDA) ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความสามารถในการทำกำไรได้ที่ 177.86 ล้านบาท ลดลงเพียง 11.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน อีกทั้งยังลดสัดส่วนหนี้ต่อทุน (D/E) จาก 0.99 เท่า มาอยู่ที่ 0.67 เท่า ต่ำกว่ากรอบที่วางไว้ ทั้งที่ในรอบปีนี้ไม่มีกำไรพิเศษจากเงินปันผล และเงินลงทุนในบริษัทร่วม บีบีจีไอ ไบโอดีเซล (BBGI-BI) อย่างในปีก่อนอีก

พร้อมกันนี้ นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ UAC ชี้แจงว่า บริษัทฯ จะยังคงให้ความสำคัญกับการรักษากระแสเงินสดให้สูงที่สุด ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในธุรกิจ Manufacturing พร้อมกับบริหารต้นทุนเพื่อรักษาขีดความสามารถการแข่งขันในธุรกิจ Trading รวมถึงปรับแผนลงทุน และแผนบริหารการเงิน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งยังมีความเสี่ยงทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ อย่างรัดกุมเหมือนที่ดำเนินการมาตลอด 2 ปีนี้ เพื่อผลักดันผลดำเนินงานระยะสั้นให้เติบโตต่อเนื่อง และรักษาศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ตามแผนที่วางไว้