1369 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรจากการดำเนินงาน 119.2 ล้านบาท ลดลง 16.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) แต่เพิ่มขึ้น 230.8% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ตามรายได้จากการขายไฟฟ้าและให้บริการที่ลดลง 12.3% YoY แต่เพิ่มขึ้น 17.0% QoQ มาอยู่ที่ 742.1 ล้านบาท โดยการลดลง YoY ถูกกดดันจากค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่ลดลง การไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐ (Adder) โครงการ SPN ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา และการแข็งค่าของเงินบาท ทำให้รายได้ลดลง ทั้งที่ปริมาณจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 5.3% YoY และ 19.0% QoQ เป็น 158,942 เมกะวัตต์-ชั่วโมง
ส่วนการเพิ่มขึ้น QoQ หนุนจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น การที่โรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้งในประเทศและเวียดนามผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นตามค่าความเร็วลมที่สูงกว่าไตรมาสก่อน อีกทั้งโรงไฟฟ้า TTTV ในเวียดนามและโรงไฟฟ้าชีวมวลในประเทศ กลับมาเปิดดำเนินการตามปกติ หลังจากปิดปรับปรุงในช่วงก่อนหน้านี้ รวมถึงผลสำเร็จของการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต (Repowering) โครงการ SPN และการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ 4 โครงการโซลาร์รูฟท็อปใหม่ในประเทศ ขณะที่ผลดำเนินงานงวด 9 เดือน บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงาน 382.2 ล้านบาท ลดลง 27.0% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามรายได้จากการขายไฟฟ้าและให้บริการที่ลดลง 8.7% มาอยู่ที่ 2,269.4 ล้านบาท
โอกาสนี้ นายชยุตม์ หลีหเจริญกุล (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงิน SSP ชี้แจงแนวโน้มธุรกิจไตรมาสสุดท้ายปีนี้ว่า จะเป็นช่วงดีที่สุดของปี หนุนจากไฮซีซั่นของแรงลม ทำให้โรงไฟฟ้าพลังงานลมสามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น และการเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายนเป็นต้นมา ส่งผลให้ผลดำเนินงานทั้งปีเติบโตดีขึ้นจากไตรมาส 3 ก่อนจะเติบโตต่อเนื่อง จากการทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ 10 โครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพิ่มกำลังการผลิตสูงกว่า 400 MW ก่อนเติบโตเป็น 790 MW ในปี 2573 ตามแผนที่วางไว้