TPCH มั่นใจ ผลงานปี 2569 นับหนึ่งการเติบโตรอบใหม่ หลังโครงการ MKPเ ดินเครื่องผลิตไฟฟ้า 20% ปลายปีนี้ ก่อนผลิตเต็ม 100 MW ในไตรมาสแรก

1248 จำนวนผู้เข้าชม  | 

TPCH มั่นใจ ผลงานปี 2569 นับหนึ่งการเติบโตรอบใหม่ หลังโครงการ MKPเ ดินเครื่องผลิตไฟฟ้า 20% ปลายปีนี้ ก่อนผลิตเต็ม 100 MW ในไตรมาสแรก




นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) เปิดเผยแผนธุรกิจช่วงโค้งสุดท้ายปี 2568 ว่า พร้อมเร่งก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ใน สปป.ลาว ซึ่งบริษัทฯ ร่วมลงทุนกับบริษัท แม่โขง พาวเวอร์ (MKP) ในสัดส่วน 40% ด้วยสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) จำนวน 100 เมกะวัตต์ (MW) ให้แล้วเสร็จ พร้อมเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เฟสแรก กำลังการผลิตประมาณ 20 MW ได้ภายในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ก่อนเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเต็มกำลังการผลิตภายในไตรมาสแรกปี 2569 สร้างการรับรู้รายได้แบบเต็มไตรมาสภายในไตรมาส 2 ผลักดันให้กลุ่มบริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งในและต่างประเทศ แตะระดับ 190.2 MW เมกะวัตต์ ยกระดับความแข็งแกร่งของผลดำเนินงานและฐานะการเงินอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่การพัฒนาโครงการในประเทศ มีการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเครื่องจักรในโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ สยาม พาวเวอร์ นนทบุรี (SPNT) กำลังการผลิตติดตั้ง 9.5 MW ให้สามารถเดินเครื่องให้มีความเสถียรมากขึ้น หลังจากในไตรมาส 3 ประสบปัญหาทำให้ผลิตไฟฟ้าได้เพียง 10% ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลเดิมทั้ง 7 แห่ง กำลังการผลิตติดตั้งรวม 80.7 MW มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการเดินเครื่องให้มีศักยภาพมากขึ้น พร้อมกับควบคุมต้นทุนการผลิต ควบคู่กับการแสวงหาแหล่งเชื้อเพลิงใหม่ ซึ่งจะช่วยยกระดับผลดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายปีนี้ให้ฟื้นตัวดีขึ้นจากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ หนองสาหร่าย (SPNS) กับสยาม พาวเวอร์ นากลาง (SPNK) กำลังการผลิตติดตั้งแห่งละ 9.9 MW อยู่ในขั้นตอนการขอใบอนุญาตประกอบกิจการจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม หากได้รับอมุมัติ พร้อมเดินหน้าแผนก่อสร้างทันที

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ภาคใต้ ขณะนี้ยังสามารถเดินเครื่องได้ตามปกติ ยกเว้นโครงการปัตตานี กรีน ซึ่งหยุดเดินเครื่องชั่วคราว ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยขอให้หยุดเดินเครื่องชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย และได้เพิ่มการบริหารจัดการสต็อกเชื้อเพลิง การตรวจสอบเส้นทาง และเตรียมแผนสำรองด้านการจัดหาวัตถุดิบ เช่น การปรับเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงปีกไม้แทนการใช้ตอไม้ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น เพื่อรักษาความต่อเนื่องในการเดินเครื่องในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม 

สำหรับผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2568 TPCH พลิกจากที่มีกำไรสุทธิ 67.3 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 31.4 ล้านบาท ในไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) มาเป็นขาดทุนสุทธิ 325.83 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม อินโดไชน่า วินด์พาวเวอร์ (IWP) ในกัมพูชา (ซึ่งบริษัทฯ ร่วมลงทุนในสัดส่วน 40% และที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้ขายเงินลงทุนทั้งหมดเมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา เพราะไม่คุ้มค่า) จำนวน 325.77 ล้านบาท ประกอบกับมีการหยุดเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลหลายแห่ง ทำให้รายได้จากการขายไฟฟ้าลดลง 13.2% YoY และ 1.7% QoQ มาอยู่ที่ 522.9 ล้านบาท และกดดันให้ผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้ ขาดทุนสุทธิ 229.1 ล้านบาท เทียบกับที่มีกำไรสุทธิ 254.1 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันปีก่อน





Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้