III คาดผลงานไตรมาส 4 สดใส ก่อนเติบโตเด่นปี 2570 รับผลสำเร็จจากการขับเคลื่อนกลยุทธ์ Synergy 360°

นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทริพเพิลไอ โลจิสติกส์ (III) เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจช่วงโค้งสุดท้ายปี 2568 ว่า น่าจะเห็นการเติบโตดีขึ้นจากไตรมาส 3 หนุนจากการเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจโลจิสติกส์และการท่องเที่ยว ผลักดันให้รายได้จากการขนส่งสินค้าทางอากาศเพิ่มขึ้น ทั้งของบริษัทฯ และบริษัทย่อย บมจ. เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (ANI) รวมถึงการเก็บเกี่ยวผลสำเร็จจากการขับเคลื่อนกลยุทธ์  Synergy 360° ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น การให้บริการคลังสินค้ารองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Warehouse) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ การเปิดให้บริการรถบรรทุกเชื่อมต่อระหว่างสนามบิน (Airport Truck Link) ของบริษัท บริการภาคพื้นท่าอากาศยานไทย (AOTGA) ที่ไม่จำกัดเพียงแค่การให้บริการเพียงแค่ 3 สนามบินหลักภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังเชื่อมต่อไปยังสนามบินในมาเลเซีย ก่อนขยายวงเพิ่มในภูมิภาคอาเซียน เช่น สิงคโปร์ ลาว หรือการเพิ่มบริการอบรมหลักสูตรการจัดการขนส่งสินค้าอันตรายทางอากาศ (DGP Training) ต่อยอดรายได้จากการให้บริการโลจิสติกส์สำหรับเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย ตลอดจนการขยายเส้นทาง Transit Hub ไปยังยุโรปตะวันออกและตะวันออกกลาง ช่วยขับเคลื่อนรายได้ให้เติบโตแข็งแกร่งมากขึ้น เห็นผลชัดเจนในปี 2570 จากการเริ่มให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น (Ground Handling) และคลังสินค้า (Air Cargo Terminal) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และการจัดตั้งสายการบินขนส่งสินค้าเป็นของตนเอง (Cargo Airline) เพื่อให้บริการในเส้นทางที่มีความต้องการสูง และมีอัตรากำไรที่ดี ภายในครึ่งหลังปี 2569

สำหรับผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 101.2 ล้านบาท เติบโต 0.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเติบโต 37.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) หนุนจากการขยายธุรกิจใหม่ๆ และสร้าง Synergy ภายในกลุ่มบริษัท ทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 0.8% YoY และ 5.0% QoQ มาอยู่ที่ 16.5% ทั้งที่รายได้รวมลดลง 3.9% YoY และ 4.5% QoQ ผลจากปริมาณเที่ยวบินที่ให้บริการลดลงตามการชะลอตัวของภาคท่องเที่ยว ฉุดให้ผลดำเนินงานของ AOTGA ชะลอตัว อีกทั้งปริมาณการขนส่งสินค้าที่ลดลงในบางกลุ่มธุรกิจ รวมถึงค่าระวางปรับตัวลดลง

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากการชะลอตัวของภาคท่องเที่ยว และการลดลงของปริมาณสินค้าอีคอมเมิร์ซจากจีนที่เกิดในครึ่งปีแรก ฉุดให้อัตรากำไรสุทธิงวด 9 เดือน ลดลงจาก 19.07% มาอยู่ที่ 15.74% ส่งผลให้กำไรสุทธิงวด 9 เดือนปีนี้ ชะลอตัว 10.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มาอยู่ที่ 283.36 ล้านบาท ตามไปด้วย ทั้งที่รายได้รวมจะเพิ่มขึ้น 6.6% เป็น 1,788 ล้านบาทก็ตาม