51 จำนวนผู้เข้าชม |
นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางสาวปาริฉัตร โชติภูมิเวทย์ (ซ้าย) ผู้อำนวยการสายงานบัญชีและการเงิน บมจ. ที คิว อาร์ (TQR) ร่วมนำเสนอข้อมูลธุรกิจ ผ่านเวทีบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ประจำงวดไตรมาส 3 ปี 2568 โดยระบุว่า แนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายปีนี้ น่าจะเติบโตแข็งแกร่ง จากการเข้าสู่ช่วงการต่ออายุสัญญากรมธรรม์ประกันภัยและประกันภัยต่อ ประกอบกับการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีความสนใจทำประกันภัยเพิ่มมากขึ้น หนุนให้ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อเติบโตตามไปด้วย ทั้งแบบประกันภัยต่อแบบทั่วไป (Traditional Business) และแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business) ที่ดำเนินการร่วมกับบริษัทแม่ บมจ. ทีคิวเอ็ม อัลฟา (TQM) และบริษัทประกันภัยชั้นนำอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ประกันภัยต่อสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Personal Accident and Health) ประกันภัยต่อความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหาร (Directors and Officers) ประกันภัยต่อไซเบอร์ (Cyber) ประกันภัยต่อการก่อการร้ายและภัยทางการเมือง (Political Violence) หรือประกันภัยต่อที่เกี่ยวข้องกับ ESG เช่น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ตอลดจนการพัฒนาประกันภัยต่อรูปแบบใหม่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate & Resource Security) และการเปลี่ยนแปลงของเมกะเทรนด์ระดับโลก อย่างประกันภัยต่อที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI & Robotics, Health Tech, Climate Tech และ Smart City Insurance
ขณะที่ธุรกิจประกันภัยไซเบอร์ ภายใต้บริษัทร่วมทุน อัลฟ่าเซค (Alphasec) สามารถพัฒนาโซลูชันประกันภัยไซเบอร์ และระบบบริหารความปลอดภัยข้อมูลขั้นสูง ที่ทันสมัยและแข่งขันได้ และเริ่มขยายไปสู่ระบบวิเคราะห์ความเสี่ยงด้วยเทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดผลกระทบจากภัยไซเบอร์ ช่วยให้บริษัทฯ สามารถต่อยอดการรับประกันภัยต่อไซเบอร์ ให้ครอบคลุมทั้งลูกค้าองค์กร (Corporate Cyber) และส่วนบุคคล (Personal Cyber) ช่วยสนับสนุนให้รายได้ปีนี้เติบโต 5-10% ตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ที่ผ่านมา TQR มีกำไรสุทธิ 22.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ทั้งที่รายได้รวมจะทรงตัวที่ 64.42 ล้านบาท แต่หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) กำไรสุทธิจะทรงตัว ทั้งที่รายได้รวมจะเพิ่มขึ้น 8% YoY สาเหตุจากมีค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น ทั้งจากการเพิ่มพนักงาน และการจัดงาน 14 ปี Moving Forward และกดดันให้ผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้ กำไรสุทธิทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งที่รายได้รวมจะเพิ่มขึ้น 7% มาอยู่ที่ 208.46 ล้านบาท