1480 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) ผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางอันดับหนึ่งของประเทศ เปิดเผยผลดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิ 689 ล้านบาท เพิมขึ้น 308.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) แต่ลดลง 19.4% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยการลดลง QoQ เกิดจากไตรมาสสุดท้ายปีก่อนมีรายได้พิเศษจากดอกเบี้ยรับคืนจากเงินกู้ระยะยาวจำนวน 483 ล้านบาท ที่ได้รับการสนับสนุนจากการยางแห่งประเทศไทยหนุนเข้ามา ส่วนการเติบโต YoY มีสาเหตุจากธุรกิจยางธรรมชาติมีการเติบโตทั้งด้านปริมาณขาย และราคาขาย โดยปริมาณขายทำได้ 396,955 ตัน เติบโตติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 6 ในจำนวนนี้เป็นยางปลอดการตัดไม้ทำลายป่า (EUDR) ราว 43,000 ตัน ส่วนราคาขายเฉลี่ยปรับขึ้น 25.9% ผลักดันให้รายได้เติบโต 57.7% มาอยู่ที่ 27,850.6 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจถุงมือยางได้อานิสงค์จากราคาขายที่เพิ่มขึ้น 17.8% ผลักดันให้รายได้เพิ่มขึ้น 8.6% มาอยู่ที่ 6,520.1 ล้านบาท พร้อมกับหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มจาก 7.9% ในไตรมาสแรกปีก่อน ขึ้นมาเป็น 9.1% ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจยางธรรมชาติและธุรกิจถุงมือยาง เติบโต 42.5% เป็น 34,385.1 ล้านบาท
ประการสำคัญ การประกาศมาตรการภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ จะไม่ส่งผลกระทบทางตรงกับธุรกิจ เนื่องจากกลุ่มบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากการขายยางธรรมชาติและถุงมือยางไปอเมริกาเพียง 10% ของรายได้รวมในปีที่ผ่านมา อีกทั้งอเมริกาเองมีการบริโภคยางธรรมชาติเพียง 4-5% ของความต้องการใช้ทั้งโลก นอกจากนี้ ยางธรรมชาติยังถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มสินค้าที่ได้รับยกเว้นจากการปรับขึ้นภาษีอีกด้วย แต่เนื่องจากยางธรรมชาติเป็นหนึ่งในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยางล้อ จึงอาจได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการชะลอคำสั่งซื้อของลูกค้าบางกลุ่ม เพื่อรอดูสถานการณ์ ทำให้บริษัทฯ พร้อมเกาะติดสถานการณ์เพื่อให้สามารถปรับกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถใช้ประโยชน์จากแผนขยายกำลังการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด หลังจากในช่วงที่ผ่านมา ได้ทยอยเพิ่มกำลังการผลิตยาง EUDR ควบคู่ไปกับการผลิตยางแท่งได้ปีละ 3.6 ล้านตัน จากเป้าหมายสิ้นปี 2569 ที่ตั้งไว้ปีละ 4.0 ล้านตัน พร้อมต่อยอดผลดำเนินงานให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม การที่สิ้นปีนี้จะเริ่มมีการบังคับใช้ยาง EUDR ในยุโรป หลังจากที่เลื่อนเวลาออกมา 1 ปี ทำให้นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ STA ออกมาประเมินแนวโน้มธุรกิจปีนี้ว่า จะได้ประโยชน์จากความต้องการใช้ยาง EUDR ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่ายางแท่ง ที่เร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง กระตุ้นยอดขายยางโดยรวมทำได้เกินกว่า 1.6 ล้านตัน อย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้