746 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. ชโย กรุ๊ป (CHAYO) รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิ 80.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,411% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 32% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) สาเหตุจากการเพิ่มขึ้นของรายได้หลัก โดยเฉพาะธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ที่สามารถจัดเก็บหนี้ได้เพิ่มขึ้น 23.04% ตามขนาดของพอร์ตที่ใหญ่ขึ้น จากการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารเพิ่มเป็นกว่า 100,000 ล้านบาท อีกทั้งมีการตั้งผลขาดทุนทางเครดิต (ECL) ลดลง จากการปรับประมาณการใหม่ในบางพอร์ต เสริมด้วยรายได้จากธุรกิจบริการจัดหาคน ที่มีปริมาณงานเพิ่มขึ้น ทำให้มีรายได้สูงขึ้น 76.29% ส่งผลให้รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 11.23% มาอยู่ที่ 548.55 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 2 ได้รับการเปิดเผยจากนายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารว่า น่าจะเห็นการเติบโตต่อเนื่อง หนุนจากความสามารถในการจัดเก็บหนี้ที่มีประสิทธิภาพ โดยเมื่ออ้างอิงยอดการจัดเก็บหนี้ช่วง 4 เดือนแรกของปี ทำให้ประเมินว่า จะสามารถจัดเก็บหนี้แต่ละไตรมาสได้ไม่ต่ำกว่า 160 ล้านบาท ขณะที่มีแผนจะซื้อหนี้ด้อยคุณภาพชนิดไม่มีหลักประกัน จากสถาบันการเงิน เข้ามาบริหารเพิ่มทั้งปีราว 10,000 ล้านบาท หลังจากไตรมาสแรกซื้อหนี้ไปแล้ว 970 ล้านบาท ช่วยผลักดันผลดำเนินงานทั้งปีให้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้
พร้อมกันนี้ ผู้บริหารยังได้ชี้แจงเพิ่มเติมถึงประเด็นที่ดินแปลงใหญ่ที่จังหวัดพังงาที่ยืดเยื้อมากว่า 2 ปี หลังจากผู้ชนะประมูลรายเดิมไม่นำเงินมาชำระราคากับกรมบังคับคดีตามกำหนดด้วยว่า ปัจจุบันมูลค่าของที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจประมูลที่ดินดังกล่าวด้วยตัวเองแทน เพื่อรับรู้กำไรจากการขายที่ดินตั้งแต่กลางไตรมาส 3 เป็นต้นไป โดยเพื่อให้สามารถปิดการขายได้เร็วขึ้น มีการวางกลยุทธ์การขายแบบแยกเป็นส่วนๆ แทนการขายทั้งจำนวน ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสทางธุรกิจจากการเข้าร่วมบริหารหนี้ภาคประชาชนที่รัฐบาลตั้งใจซื้อออกมาเพิ่มเติมด้วย