Skinsista รุกตลาด Makeup Care ต่อยอดความสำเร็จจากผลิตภัณฑ์กันแดดและบำรุงผิว หวังปั้นรายได้โต 2 เท่าตัว ในปี 2571  

นายชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สกิน ลาบอราทอรี่ (SKIN) ผู้พัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามแบรนด์ Skinsista ที่โดนใจผู้บริโภคยุคใหม่ ว่าที่หุ้นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) เปิดเผยภาพรวมธุรกิจในครึ่งแรกปี 2568 ว่า   สามารถทำยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากช่องทางออนไลน์ ผ่านแพลทฟอร์ม Shopee, Lazada, TikTok shop และช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับกระแสตอบรับดี ไม่ได้จำกัดแค่กลุ่มผลิตภัณฑ์กันแดด ซึ่งได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ยอดขายในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มสูงกว่า 1 ล้าน 5 แสนชิ้น แต่ยังกระจายตัวไปในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Natural Retinol Moisturizer กับผลิตภัณฑ์ใหม่ นวัตกรรมเรตินอลที่ไม่แพ้ ไม่ก่อการระคายเคือง ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี และกลุ่มผลิตภัณฑ์ Makeup Care แป้งบำรุงผิวสูตรผสมรองพื้น Dream Light Foundation Powder ช่วยลดสิว ปกปิด เบาสบายผิว ที่ได้รับกระแสนิยมจนขาดตลาด มียอดขายแตะ 30,000 ตลับ แม้จะวางจำหน่ายเพียงช่องทางออนไลน์อย่างเดียว สะท้อนให้เห็นความสำเร็จในการมุ่งศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค และพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบรับเทรนด์ความงามที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรอ่อนโยน ปลอดภัย ตอบโจทย์ผิวในชีวิตประจำวัน และตอบโจทย์ปัญหาผิวเฉพาะทางได้อย่างตรงจุด ในราคาที่คุ้มค่า จนทำให้แบรนด์ Skinsista เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของผู้บริโภค  

สำหรับครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มีแผนแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มไม่ต่ำกว่า 10 รายการ (SKUs) เพื่อต่อยอดความสำเร็จ จากการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้ขยายตัวในวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ใหม่ กลุ่ม Makeup Care ที่ตอบโจทย์การแต่งหน้าพร้อมการดูแลผิวในเวลาเดียวกัน เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์และคุณค่าจากผลิตภัณฑ์สูงสุด โดยใช้ Influencer และ KOL ที่มีประสบการณ์ใช้งานจริง และมีชื่อเสียง อาทิ ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ ดาว ณัฐภัสสร ลิลลี่ ภัณฑิลา ช่วยทำการตลาด และสื่อสารแบรนด์ ผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมกับเพิ่มช่องทางจำหน่ายรูปผ่าน Modern Trade ช่วยผลักดันการเติบโตของแบรนด์ ทั้งในรูปแบบซอง ที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ และรูปแบบ Full Pax Size สำหรับผู้บริโภคที่ทดลองใช้ครีมซองแล้วติดใจในคุณภาพของแบรนด์ รวมถึงการจับมือคู่ค้าทำโครงการพิเศษ (Project Exclusive) เพื่อขยายตลาดในประเทศ พร้อมกับเริ่มขยายตลาดภูมิภาคอาเซียนเพิ่มเติมเข้ามา เพื่อผลักดันให้รายได้เติบโตก้าวกระโดดจากปีก่อน และบรรลุเป้าหมายรายได้เติบโต 2 เท่าตัว ในปี 2571 ตามแผน 3 ปีที่วางไว้