BAM ผนึก BKA UOB พัฒนาบ้านมือสองที่คุ้มค่า ราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งเป้าสิ้นปี 2568 นี้ 100 ล้านบาท

บมจ. บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือทางธุรกิจ กับ บมจ. บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป (BKA) และ บมจ. ธนาคารยูโอบี (UOB) เพื่อพัฒนาและยกระดับศักยภาพทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ที่ BAM ถือครอง ให้สามารถกลับเข้าสู่ตลาดในรูปแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อจริง โดยเฉพาะตลาดระดับกลางถึงบน ผ่านการพัฒนาโดย BKA เน้นกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับราคา 5 ล้านบาท ขึ้นไป ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการในตลาดเมืองขยาย และเขตชานเมือง ขณะเดียวกัน BAM จะช่วยทำหน้าที่กลั่นกรองและปรับสภาพหนี้ (Buffer) ของลูกหนี้ เพื่อเป็นการลดภาระหนี้ของสถาบันการเงิน และช่วยให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยสินเชื่อออกมาได้มากขึ้น และทาง UOB จะให้การสนับสนุนทางการเงินที่เป็นรูปธรรม ตามความเหมาะสมของแต่ละดีล (case by case) โดยตั้งเป้าหมายในการพัฒนาและบริหาร NPA ร่วมกันสิ้นปีนี้ ประมาณ 100 ล้านบาท  

โอกาสนี้ ดร. รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAM ชี้แจงว่า ความร่วมมือระหว่าง 3 องค์กรครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ New Asset Ecosystem ที่เชื่อมโยงผู้ถือทรัพย์–ผู้พัฒนา–สถาบันการเงิน เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ โดยการเปลี่ยนทรัพย์ที่เคยถูกทิ้งร้าง ให้กลับมามีชีวิต สร้างมูลค่า และหมุนเวียนกลับสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบริษัทฯ พร้อมขยายความร่วมมือในการพัฒนาและบริหารจัดการ NPA ให้กับพันธมิตรภาคเอกชนรายอื่นๆ เพิ่มเติม

ส่วนนายพชร ธนวงศ์เกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BKA เสริมว่า บริษัทฯ พร้อมนำจุดแข็งในการเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการปรับปรุงให้บริการบ้านมือสองแบบครบวงจรมาเป็นระยะเวลากว่า 15 ปี ทำให้เข้าใจตลาดและสามารถปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ พร้อมรับประกันผลงานหลังโอน เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้ลูกค้าได้อย่างเต็มที่ สร้างโอกาสใหม่ให้กับตลาดบ้านมือสอง กลายเป็นบ้านพร้อมอยู่ที่มีศักยภาพสูง ก่อนจะขยายพอร์ตบ้านในมือให้ครอบคลุมหลากหลายพื้นที่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่นายยุทธชัย เตยะราชกุล กรรมการผู้จัดการ บุคคลธนกิจ UOB ทิ้งท้ายว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยตอบโจทย์ตลาดที่อยู่อาศัยได้อย่างตรงจุด เพราะผู้บริโภคทุกวันนี้ มองหาบ้านในทำเลดี คุณภาพได้ ราคาไม่ไกลเกินฝัน ผ่านการรีโนเวทบ้านมือสองโดยมืออาชีพ มีมาตรฐานที่สร้างความเชื่อมั่นให้ธนาคารได้เต็มที่ ส่งผลให้ธนาคารพร้อมสนับสนุนสินเชื่อด้วยข้อเสนอสินเชื่อพิเศษ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี และฟรีค่าประเมินหลักประกัน เพื่อให้ลูกค้ามีภาระผ่อนที่คาดการณ์ได้ และสามารถตัดสินใจเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น