PTG เพิ่มเป้ารายได้ธุรกิจ Non-Oil ปี 2568 เป็น 50-60% หลังกาแฟพันธุ์ไทยเป็นฮีโร่ ปั้นกำไรครึ่งปีแรก

1422 จำนวนผู้เข้าชม  | 

PTG เพิ่มเป้ารายได้ธุรกิจ Non-Oil ปี 2568 เป็น 50-60% หลังกาแฟพันธุ์ไทยเป็นฮีโร่ ปั้นกำไรครึ่งปีแรก


 

 

บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ประกาศผลดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 312 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% จากไตรมาสแรกปีนี้ (QoQ) แต่ลดลง 33% จากไตรมาส 2 ปีก่อน (YoY) เป็นไปตามที่ตลาดคาด ซึ่งการเพิ่มขึ้น QoQ มีสาเหตุจากการฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้น ทั้งจากธุรกิจน้ำมัน (Oil) และธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) โดยธุรกิจ Oil ฟื้นตัว 4.6% มาอยู่ที่ 2.8 พันล้านบาท ตามยอดขายขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้น 2% เป็น 1,700 ล้านลิตร และค่าการตลาดที่เพิ่มขึ้นจากลิตรละ 1.62 บาท มาอยู่ที่ลิตรละ 1.65 บาท รวมถึงการยกระดับสถานีบริการในเขตเมือง ควบคู่กับการกลับมาใช้บริการของฐานลูกค้าสมาชิก PT Max Card และ Max Card Plus ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดยังทรงตัวในระดับเดิมที่ 22.1% ขณะที่ธุรกิจ Non–Oil เติบโตต่อเนื่อง 14.4% มาอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท ตามการยอดขายกาแฟพันธุ์ไทยที่เพิ่มขึ้น จากการขยายสาขาต่อเนื่อง 166 สาขา เป็น 1,642 สาขา ส่งผลให้สัดส่วนกำไรขั้นต้นจากธุรกิจ Non-Oil เพิ่มจาก 33% เป็น 35%

ส่วนการลดลง YoY ถูกกดดันจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) และต้นทุนการเงินที่เร่งตัวขึ้น ตามการขยายสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทย และอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจ Oil ที่ลดลง 6% จากยอดขายน้ำมันที่ลดลง 1% จากการมีวันหยุดยาวในเดือนเมษายน และฤดูฝนที่มาเร็วกว่าคาด ประกอบกับค่าการตลาดถูกกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกช่วงสงครามอิหร่าน–อิสราเอล แม้จะได้รับการชดเชยจากส่วนแบ่งกำไรในธุรกิจน้ำมันปาล์ม ของ บมจ. พีพีพี กรีน คอมเพล็กซ์ จำกัด (PPPGC) ที่เร่งตัวขึ้นจากการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจ Non-oil ที่เติบโตแข็งแกร่งถึง 69% จากการขยายร้านกาแฟพันธุ์ไทย ทำให้ยอดขายรวม และยอดขายต่อสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ความสำเร็จของร้านกาแฟพันธุ์ไทย ช่วยผลักดันให้รายได้จากการขายและบริการในธุรกิจ Non-Oil ครึ่งแรกปีนี้ เติบโต 34% เป็น 10,961 ล้านบาท และช่วยชดเชยรายได้จากธุรกิจ Oil ที่ลดลง 1.5% มาที่ 102,942 ล้านบาท ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้รายได้จากการขายและบริการ เพิ่มขึ้นจากครึ่งแรกปีก่อน 1% ขึ้นมาที่ 113,903 ล้านบาท พร้อมกับหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวม ปรับเพิ่มจาก 6.6% ในครึ่งแรกปีก่อน เป็น 7.3% ช่วยลดผลกระทบจาก SG&A และต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิปรับลดลง 30% มาอยู่ที่ 502 ล้านบาท






ขณะเดียวกัน นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG ได้ออกมาประกาศปรับประมาณการเติบโตของรายได้จากธุรกิจ Non-Oil ทั้งปีเพิ่มจากเดิม 40-50% เป็น 50-60% พร้อมกับปรับสัดส่วนกำไรขั้นต้นของธุรกิจ Non-Oil ขึ้นจาก 30-35% เป็น 35-40% จากการขยายสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยอย่างก้าวกระโดด หลังครึ่งปีแรก กาแฟพันธุ์ไทยมีการเติบโตของรายได้ 125.1% ขึ้นมาแตะ 2,178 ล้านบาท พร้อมกับปรับลดประมาณการเติบโตของรายได้จากธุรกิจ Oil ทั้งปี จาก 5-10% ลงมาเหลือ 1-3% เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มอุตสาหกรรมที่ยังคงเผชิญแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด ตลอดจนพฤติกรรมผู้บริโภคที่ยังคงระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

ที่สำคัญ บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง และพัฒนาแคมเปญเพื่อกระตุ้นการใช้บริการ ภายใต้ระบบนิเวศ Max World ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพของสถานีบริการเดิมให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น และขยาย Touchpoints ให้ครบ 2,978 สาขา ในจำนวนนี้เป็นร้านกาแฟพันธุ์ไทย 1,947 สาขา ที่เหลือเป็น Non-Oil Touchpoints อื่นๆ  

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ด้วยการสร้างโอกาสในการทำงาน ยกระดับคุณภาพชีวิต และสนับสนุนการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์อยู่ดี มีสุข ซึ่งไม่เพียงแต่เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน แต่ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสนับสนุนการเติบโตขององค์กรในระยะยาว

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้