BAM เปิดตัวโครงการทรัพย์มหาชน ตอบโจทย์กลุ่มคนไม่มีรายได้ประจำ และผู้มีรายได้น้อย

ดร. รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) ผู้นำด้านบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เปิดเผยว่า ความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน สวนทางราคาที่อยู่อาศัยที่แพงขึ้น ทำให้กลุ่มผู้เริ่มทำงาน หรือผู้มีรายได้น้อย มักถูกมองว่าไม่มีศักยภาพทางการเงินเพียงพอที่จะเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งไม่มีเอกสารรับรองเงินเดือน และมีรายได้ไม่แน่นอน กว่า 20 ล้านคน ถูกปิดกั้นโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ดูได้จากข้อมูลอัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในครึ่งแรกปี 2568 ที่สูงเกือบ 40% จากจำนวนการขอสินเชื่อทั้งหมด โดยที่อยู่อาศัยราคาระดับ 3 ล้านบาท มีสัดส่วนการถูกปฏิเสธสูงที่สุด ส่วนที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 70-75% ดังนั้น เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ มีสิทธิ์เข้าถึงบ้านหลังแรกได้ ตามแนวคิด Opportunities for All บริษัทฯ จึงเปิดตัวโครงการทรัพย์มหาชน เพื่อบ้านของคนสู้ชีวิต โดยนำทรัพย์ในพอร์ต ทั้งบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุดพักอาศัย อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า ราคาตั้งแต่ 1 แสนบาท ถึงไม่เกิน 3 ล้านบาท ประมาณ 15,000 ยูนิต มาจำหน่ายให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือรายได้ไม่แน่นอน ในราคาที่จับต้องได้ สามารถผ่อนชำระกับ BAM ได้โดยตรง  

ในเฟสแรก BAM จะให้สิทธิกลุ่มเป้าหมายอาชีพรับจ้าง ฟรีแลนซ์ คนขับรถแท๊กซี่ วินมอเตอร์ไซด์ ผู้สื่อข่าว พ่อค้าแม่ขายตามแผง รวมถึงกลุ่มที่ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง หรือเช่าอยู่ ได้เลือกทรัพย์จำนวน 1,500 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยหลังแรก ด้วยเงื่อนไขสุดพิเศษ ทั้งเงินจองเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท ระยะเวลาการผ่อนชำระที่ยาวนาน 20 ปี และอัตราดอกเบี้ยที่สมเหตุสมผล ปลอดดอกเบี้ยปีแรก ปีที่ 2-3 คิดดอกเบี้ย 3% และอัตรา MRR ตั้งแต่ปีที่ 4 ไปจนครบอายุสัญญา พร้อมทั้งเปิดช่องให้สามารถเจรจาปรับเปลี่ยนเงื่อนไขบางประการที่สอดคล้องกับศักยภาพรายได้ของผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสได้อย่างแท้จริง ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น พร้อมกับเปิดประตูสู่ระบบการเงินและโอกาสที่กว้างขึ้น

สำหรับเฟสต่อไป BAM มีแผนขยายกลุ่มเป้าหมายโครงการทรัพย์มหาชน ออกไปยังกลุ่มข้าราชการ หรือพนักงานชั้นผู้น้อย ในหน่วยงานภาครัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ อย่าง บมจ. อสมท. (MCOT) รวมถึงพันธมิตรรายอื่นๆ เพิ่มเติมในระยะต่อไป