1611 จำนวนผู้เข้าชม |
บริษัท เสนา กรีน เอนเนอร์ยี่ (SENA Green Energy) บริษัทย่อยของ บมจ. เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) ร่วมกับ บริษัท แม็คนิก้า ประเทศญี่ปุ่น (MACNICA) แถลงข่าวความร่วมมืออย่างเป็นทางการในโครงการสาธิตการใช้งานเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดเพอรอฟสไกต์ ในสภาพอากาศเขตกึ่งร้อน (Demonstration Project of Perovskite Solar Cell System in Subtropical Region) ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น ถือเป็นครั้งแรกของโลกที่เทคโนโลยีเพอรอฟสไกต์ที่ผลิตในญี่ปุ่น ถูกนำมาใช้ทดสอบจริงภายใต้สภาพอากาศกึ่งร้อนของประเทศไทย ซึ่งมีสภาพอากาศร้อนและชื้น รังสี UV สูง รวมถึงมีฝุ่น PM 2.5 โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนา PSC ให้ทนต่อสภาพแวดล้อมจริงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และต่อยอดการใช้งานในอนาคต ทั้งในบ้าน อาคารสำนักงาน และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และขับเคลื่อนสังคมสู่พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน
การดำเนินโครงการดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของเทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดเพอรอฟสไกต์ (Perovskite Solar Cell - PSC) ซึ่งถูกคิดค้นโดยศาสตราจารย์ซึโตะมุ มิยะซะกะ (Prof. Miyasaka Tsutomu) จากมหาวิทยาลัยโตอิน โยโกฮาม่า และได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์แห่งอนาคต ด้วยคุณสมบัติที่บางเบา ยืดหยุ่น สามารถผลิตไฟฟ้าได้แม้ในสภาพแสงน้อย จากไฟ LED และยังติดตั้งได้ในพื้นที่ที่โซลาร์เซลล์ทั่วไปมีข้อจำกัด อย่างพื้นที่โค้ง หรืออาคารดีไซน์พิเศษ โดยจะดำเนินการทดสอบนำร่องที่อาคารคลับเฮ้าส์ โครงการเสนา พาร์ควิลล์ 2 รามอินทรา–วงแหวน


โอกาสนี้ ผศ. ดร. เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ SENA เปิดเผยว่า มีความยินดีและภูมิใจอย่างยิ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่นเล็งเห็นคุณค่าของกลุ่มเสนา และคัดเลือกเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ ในฐานะบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพียงรายเดียวของไทย พร้อมกับมอบทุนสนับสนุนจากกลไกเครดิตร่วม (JCM) ให้กับบริษัทฯ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของรัฐบาลญี่ปุ่นที่มีต่อการริเริ่มและมุ่งมั่นที่จะส่งมอบบ้านรักษ์โลกในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ของกลุ่มเสนามาโดยตลอด ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ จะใช้โอกาสนี้เพื่อต่อยอดการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อโลกให้มากยิ่งขึ้น ตามวิสัยทัศน์ในการก้าวเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจตลอดทุกช่วงชีวิต ตอกย้ำความเป็น SENA Sustainable Living Leader ที่มุ่งสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนไทย
ขณะที่นายอะสึชิ ซาโต้ กรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจนวัตกรรมเชิงยุทธศาสตร์ MACNICA ชี้แจงว่า เทคโนโลยี PSC กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น ทำให้การทดสอบประสิทธิภาพของเซลล์ PSC ภายใต้สภาพอากาศกึ่งร้อนชื้นของไทย ถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันให้การใช้งานเทคโนโลยี PSC เกิดขึ้นได้จริง และสามารถต่อยอดไปสู่การใช้ได้อย่างแพร่หลายในภูมิภาคเอเชียและในระดับโลก ซึ่งจะผลักดันให้บริษัทฯ ยกระดับขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจให้บริการ โซลูชันที่ดูแลเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างครอบคลุม ทั้งเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น AI และ IoT และโซลูชันที่ช่วยแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) สร้างสังคมยั่งยืนในอนาคต