STA เชื่อ ผลงานไตรมาส 3 จุดต่ำสุดของปี พร้อมฟื้นตัวโค้งสุดท้ายปีนี้เป็นต้นไป

1276 จำนวนผู้เข้าชม  | 

STA เชื่อ ผลงานไตรมาส 3 จุดต่ำสุดของปี พร้อมฟื้นตัวโค้งสุดท้ายปีนี้เป็นต้นไป




นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ศรีตรังแอโกร อินดัสทรี (STA) เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจในไตรมาสสุดท้ายปี 2568 ว่า น่าจะฟื้นตัวจากไตรมาส 3 ซึ่งผลดำเนินงานขาดทุนสุทธิมากถึง 841.9 ล้านบาท ทรุดตัว 262.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ที่มีกำไรสุทธิ 517.3 ล้านบาท และขาดทุนเพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 786.8 ล้านบาท ตามรายได้รวมที่ลดลง 31.8% YoY 30% QoQ มาอยู่ที่ 21,574 ล้านบาท (สาเหตุหลักจากธุรกิจยาง ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 71.8% มีรายได้ลดลง 38.5% YoY และ 37.7% QoQ เหลือ 15,496.1 ล้านบาท ถูกกดดันจากทั้งปริมาณขายที่ลดลง 31.7% YoY และ 34.6% QoQ เหลือ 2.6 แสนตัน และราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง 9.9% YoY และ 3.4% QoQ มาอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท สวนทางต้นทุนขายที่ปรับลดลงในอัตราที่ต่ำกว่า ฉุดให้อัตรากำไรขั้นต้นทรุดตัว YoY และ QoQ ลงมาเหลือ 2.5% ขณะที่ธุรกิจถุงมือยาง ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 28.1% แม้จะฟื้นตัวดีขึ้น 1.6% QoQ ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น หลักๆ จากกลุ่มลูกค้าที่ชะลอคำสั่งซื้อในช่วงก่อนหน้านี้หันกลับมาสั่งซื้อเพิ่มขึ้น แต่ก็ได้รับผลกระทบจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง 8.6% YoY และ 7.6% QoQ เหลือชิ้นละ 0.60 บาท รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น กดดันให้รายได้ลดลง 5.1% YoY มาที่ 6,063.2 ล้านบาท พร้อมกับฉุดให้ผลดำเนินงานงวด 9 เดือน ขาดทุนสุทธิ 940 ล้านบาท อ่อนแอลง 215.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 816 ล้านบาท ทั้งที่รายได้รวมจะเพิ่มขึ้น 7% เป็น 86,800.5 ล้านบาท) ขานรับการฟื้นตัวของราคายางในตลาดโลก หลังจากจากมีความชัดเจนทั้งนโยบายภาษีนำเข้าของอเมริกา และการเลื่อนเกณฑ์ใช้ยาง EUDR ในกลุ่มสหภาพยุโรปออกไป 1 ปี ทำให้ผู้ผลิตยางล้อและผู้ผลิตสินค้าปลายน้ำในอุตสาหกรรมยางธรรมชาติเริ่มหันมาส่งคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ประกอบกับแนวโน้มผลผลิตในระยะสั้นน่าจะชะลอตัวลง ผลจากปริมาณฝนที่ตกต่อเนื่องทำให้จำนวนวันกรีดลดลง อีกทั้งราคาปาล์มน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงยังเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรบางส่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ หันมาขยายพื้นที่ปลูกปาล์มแทน

สำหรับสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบน้อยมาก ไม่ถึง 5% เพราะสร้างปัญหาเรื่องการเดินทางที่ไม่สะดวก ซึ่งได้มีการวางแผนรับมือไว้แล้ว อีกทั้งบริษัทฯ สามารถบริหารจัดการโดยกระจายคำสั่งผลิตไปยังโรงงานที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้พร้อมส่งมอบสินค้าแก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องตามปกติ

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ เตรียมต่อยอดโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ ด้วยการให้บริการดูแลสวนยางพาราแบบครบวงจร ตั้งแต่เริ่มปลูกยาง ดูแลและบำรุงสวนยาง จนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิต เจาะกลุ่มเป้าหมายเจ้าของที่ดินที่ต้องการสร้างรายได้จากการปลูกยางแต่ไม่มีความเชี่ยวชาญ หรือเจ้าของสวนยางพาราที่ไม่มีเวลาบริหารจัดการ โดยตั้งเป้าขยายพื้นที่ดูแลสวนยาง 2,000 ไร่ ภายในปี 2569





Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้