13 จำนวนผู้เข้าชม |
นางสาวบงกชรัตน์ ตั้งชูกุล (กลาง) รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจและการเงิน บมจ. ทางยกระดับดอนเมือง (DMT) เปิดเผยข้อมูลธุรกิจให้กับนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และนักลงทุน ผ่านกิจกรรมบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) และการจัดประชุมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ (Analst Meeting) ประจำงวดไตรมาส 3 ปี 2568 สรุปประเด็นได้ว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ต่อเนื่องถึงปี 2569 บริษัทฯ จะยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น ให้สอดรับกับปริมาณการจราจรที่คาดว่าจะเติบโตช้า ควบคู่ไปกับเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ นอกเหนือทางด่วน (New Business Venture) ประกอบด้วย ธุรกิจวิศวกรรมซ่อมแซม ปรับปรุง และเพิ่มความแข็งแรงโครงสร้างพื้นฐาน (ผ่านบริษัท เอ-สยาม อินฟรา) และธุรกิจให้บริการระบบการชำระเงินดิจิทัล และระบบการบริหารและจัดการการจราจรและความปลอดภัย (ผ่านบริษัทย่อย แอลฟา ดีเอ็มเทค) สามารถสร้างรายได้ดีขึ้นเป็นลำดับ โดยเอ-สยาม อินฟรา ได้งานทั้งหมด 20 โครงการ มีแผนส่งมอบงานปีนี้ 15 โครงการ ส่วนแอลฟ่า ดีเอ็มเทค เตรียมส่งมอบงานปีนี้ 3 โครงการ อยู่ระหว่างรอลงนาม 2 โครงการ และอยู่ในขั้นตอนอีก 15 โครงการ ซึ่งจะสนับสนุนให้รายได้รวมเติบโตต่อเนื่อง และรักษาศักยภาพในการจ่ายปันผลในอัตรา 7-8% ได้สม่ำเสมอ ตามแผนที่วางไว้ หลังจากช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 791.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.88% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 6.54% มาอยู่ที่ 1,970.41 ล้านบาท อานิสงค์จากการปรับขึ้นอัตราค่าผ่านทางใหม่ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคมปีก่อน ช่วยชดเชยปริมาณการจราจรที่ชะลอตัวลง 4.3% ขณะที่จ่ายปันผลรายไตรมาสๆ ละ 0.22 บาท รวมเป็น 0.66 บาท
ขณะเดียวกัน เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้ทางเดียว และเพิ่มศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจในระยะยาว บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าเข้าประมูลโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว (M82) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุขช่วงรังสิต–บางปะอิน (M5) และจุดพักรถริมทางหลวง ซึ่งคาดว่า กรมทางหลวงจะเปิดประมูลในไตรมาสแรก ปี 2569 และประกาศผลในไตรมาสสุดท้ายของปี อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าประมูลโครงการทางยกระดับ สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง (M9) เพื่อผลักดันให้ธุรกิจเติบโตแข็งแกร่งมากขึ้น
ซึ่งบริษัทฯ มีความมั่นใจว่ามีโอกาสจะชนะการประมูล จากการควบคุมต้นทุนที่เหนือกว่า และความเชี่ยวชาญในการดำเนินงาน รวมถึงความสามารถในการกู้ยืมที่เปิดกว้าง โดยโครงการลงทุนขนาดเล็กอย่าง มอเตอร์เวย์สาย M82 และจุดพักรถริมทางหลวง จะไม่ส่งผลกระทบต่อการจ่ายเงินปันผล ขณะที่โครงการขนาดใหญ่อย่าง M5 และ M9 อาจกดดันระดับเงินปันผล แต่ผลกระทบน่าจะจำกัดเนื่องจากเป็นการลงทุนแบบแบ่งระยะ 3-4 ปี และยังมีพื้นที่ในการกู้ยืม