SCGP ปิดดีลลงทุน MYPAK ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกในอินโดนีเซีย เติมเต็มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ให้ครบวงจร คาดมีกำไรในครึ่งหลังปี 2569

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) เปิดเผยว่า เพื่อเสริมศักยภาพการบูรณาการห่วงโซ่คุณค่ากับธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ (Value Chain Integration) ซึ่งจะช่วยยกระดับความสามารถการแข่งขัน จากการนำเสนอบริการด้านบรรจุภัณฑ์ที่ครบวงจร สอดรับกับความต้องการของลูกค้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท PT Prokemas Adhikari Kreasi (MYPAK) ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกชั้นนำในอินโดนีเซีย ซึ่งมีฐานการผลิตในเมือง Bekasi ทางตะวันตกของเกาะชวา คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 467 พันล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 981 ล้านบาท พร้อมรับรู้รายได้ในเดือนธันวาคมนี้ทันที

การลงทุนครั้งนี้ ถือได้ว่า มีความคุ้มค่า เพราะ MYPAK มีฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทข้ามชาติ และแบรนด์สินค้าชั้นนำในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคในอินโดนีเซีย ช่วยเพิ่มโอกาส Cross-selling จากฐานลูกค้ากลุ่มสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการประสานประโยชน์ (Synergy) จากที่ตั้งเชิงกลยุทธ์เข้ากับเครือข่ายธุรกิจ เสริมศักยภาพการบูรณาการห่วงโซ่คุณค่ากับธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ (Value Chain Integration) ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ และความต้องการบรรจุภัณฑ์ในอินโดนีเซีย ตลอดจนพื้นฐานธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกำลังการผลิตที่สูงปีละ 144,000 ตัน มูลค่าสินทรัพย์รวม 1,272 พันล้านรูเปียห์ หรือเทียบเท่า 2,670 ล้านบาท หรือฐานะทางการเงินล่าสุด ณ สิ้นปี 2567 ซึ่ง MYPAK มีรายได้ 846 พันล้านรูเปียห์ หรือราว 1,777 ล้านบาท แต่ยังมีผลขาดทุนสุทธิ 60 ล้านบาท และขาดทุนจากการดำเนินงาน (EBITDA) 40 ล้านบาท เพราะ SCGP มีแผนเข้าไปปรับปรุงกระบวนการผลิต โดยใช้ประโยชน์จากเครื่องจักรและโรงงานที่อยู่ในสภาพดี และที่ดินขนาดใหญ่ซึ่งยังเหลือพื้นที่อีกมาก ทำให้คาดว่าจะสามารถพลิกผลดำเนินงานของ MYPAK ให้กลับมามีกำไรได้ในครึ่งหลังปี 2569