1642 จำนวนผู้เข้าชม |
นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) เปิดเผยว่า การที่ธุรกิจพื้นที่เก็บของให้เช่า (Self Storage) ในไทย ยังมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รับอานิสงค์จากการขยายตัวของเมือง การค้าออนไลน์ และการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว ทำให้บริษัทฯ ทุ่มงบลงทุน 75 ล้านบาท พัฒนา LEO Self Storage สาขาใหม่ บนถนนพระราม 4 ขนาดพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร ให้เป็นพื้นที่เก็บของให้เช่าแบบอัจฉริยะ (Smart Storage) คิดค้นและพัฒนาระบบโดยบริษัทฯ เอง ไม่ได้เช่าระบบจากบริษัทข้ามชาติ แต่สามารถอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้ลูกค้าสามารถสมัครบริการทำ online booking ทำธุรกรรมด้วยตนเองได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องรอติดต่อพนักงาน หรือการวางระบบรักษาความปลอดภัย ด้วยการยืนยันตัวตนที่ Self Service kiosk จากนั้น ลูกค้าสามารถควบคุมการเข้าออกพื้นที่ด้วยตัวเอง ผ่าน Mobile application ที่มาพร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการเปิดปิดห้องเก็บของ
แต่ที่เป็นไฮไลท์ของ LEO Self Storage สาขาพระราม4 คือ การมีห้องเก็บไวน์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเก็บรักษาไวน์โดยเฉพาะ ด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิ 15-17 องศา และความชื้น 60% พร้อมด้วยแสงไฟที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเก็บรักษารสชาดไวน์โดยเฉพาะ เหมาะกับลูกค้าที่เป็นนักสะสมไวน์และต้องการมีพื้นที่เก็บไวน์ที่ได้มาตรฐานเพิ่มเติม ตลอดจนการเป็นคลังสินค้าขนาดเล็กสำหรับบริษัทผู้นำเข้าไวน์ เพื่อบริการจัดส่งไวน์ให้กับร้านอาหาร ภัตตาคาร ไวน์บาร์ หรือโรงแรมที่อยู่ในย่านสุขุมวิท ทองหล่อ และเอกมัย ทำให้เชื่อมั่นว่า จะได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี เหมือนที่ประสบความสำเร็จจาก LEO Self Storage สองสาขาแรกคือ พระราม 3 และสาขาไชน่าทาวน์ ในเบื้องต้น ตั้งเป้ามีผู้ใช้บริการปีแรกในอัตราสูงกว่า 60%
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนจะเปิดให้บริการ LEO Self Storage ปีหน้าเพิ่มอีก 2 สาขา ในรูปแบบ Smart Storage เน้นทำเลกรุงเทพมหานครเป็นหลัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลดำเนินงานของบริษัทฯ ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง โดยตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจ Self Storage ปีหน้าเพิ่มจาก 1-2% เป็น 10% เพราะกำหนดอัตราค่าเช่า Smart Storage ไว้ที่ตารางเมตรละ 750-1,000 บาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นสูงระดับ 40-50%
ขณะเดียวกัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LEO ได้ประกาศปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้ลงจาก 20% เหลือ 15% หลังจากสถานการณ์ในไตรมาส 2 ได้รับผลกระทบจากค่าระวางดีดตัวสูง ขณะที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวทำให้ปริมาณการส่งออกไปจีนลดลง แต่เริ่มเห็นสัญญาณการคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นแล้วในครึ่งปีหลัง